กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มมากกว่า 40 จังหวัด ชี้จับตาพายุโซนร้อน “เอวิเนียร์”

27 พ.ค. 2567 | 02:48 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2567 | 02:48 น.

กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มมากกว่า 40 จังหวัด ชี้จับตาพายุโซนร้อน “เอวิเนียร์” หลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทั่วไทย

กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ลักษณะอากาศทั่วไป 27 พฤษภาคม 2567 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนล่าง 

ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร สำหรับอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
 

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (27 พ.ค. 67) พายุไซโคลน “ริมาล” บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของประเทศบังกลาเทศแล้ว คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป ส่วนพายุโซนร้อน “เอวิเนียร์” บริเวณทะเลฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงวันที่ 27-31 พ.ค. 67 โดยพายุทั้งสองนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มมากกว่า 40 จังหวัด ชี้จับตาพายุโซนร้อน “เอวิเนียร์”

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

  • ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
     
  • ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
  • ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.