วันที่ 23 กันยายน 2567 เวลา 17.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีผลกระทบถึงวันที่ 23 กันยายน 2567โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้
ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมฝ่ายตะวันออกบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่าง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณ ที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้
ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง
ภาคตะวันออก
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
กรุงเทพและปริมณฑล
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานการแจ้งเตือนสาธารณภัย เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น และพื้นที่ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง
ด้านกรมชลประทาน ได้ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำยม จ.แพร่-สุโขทัย เตรียมรับมือฝนตกหนักอีกระลอก ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบน กรมชลประทานได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ ซึ่งแนวโน้มปริมาณน้ำที่จะไหลผ่าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ คาดว่าในช่วงค่ำวันนี้ (23 ก.ย. 67) จะแตะที่ 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนตกหนักมากบางแห่ง นั้น ปัจจุบันพบว่าทางตอนบนของลุ่มน้ำยมมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้มีปริมาณน้ำไหลจากลำน้ำสาขาลงสู่แม่น้ำยมในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับแม่น้ำยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรมชลประทาน ได้ประเมินสถานการณ์น้ำในเบื้องต้น พบว่าที่สถานีวัดน้ำ Y.37 อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีแนวโน้มที่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ในช่วงค่ำของวันนี้ (23 ก.ย. 67) ก่อนที่มวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์) ในช่วงเช้าของวันถัดไป (24 ก.ย. 67)
โดยขณะนี้ ได้ประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังจังหวัดสุโขทัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำยม กรมชลประทาน จะใช้เครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ โดยที่ จ.แพร่ จะใช้ฝายแม่ยมทำการหน่วงน้ำไว้ที่ด้านเหนือฝาย เพื่อชะลอปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงสู่ด้านท้ายผ่าน อ.เมืองแพร่ ส่วนที่ จ.สุโขทัย จะใช้คลองหกบาท คลองยมน่าน และแม่น้ำยมสายเก่า เร่งระบายน้ำ เพื่อช่วยตัดยอดน้ำหลากก่อนที่จะเข้าตัวเมืองสุโขทัย พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่าน ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำสายหลัก ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด