สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 แห่ง จัดเวทีเสวนาสาธารณะ ภายใต้หัวข้อ “อนาคตเด็กไทยกับความปลอดภัยบนท้องถนน”
พร้อมเปิดตัวหนังสือนิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล” มุ่งสร้างความตระหนักรู้ในการใช้รถ ใช้ถนน อย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุบนท้องถนนในเด็กและเยาวชน
ผศ.สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า กล่าวว่า จากรายงานการทบทวนสถานการณ์ ความท้าทาย และแนวทางการดูแลเด็กปฐมวัย ในสถานเลี้ยงเด็กปฐมวัย ปี 2565 โดย มหาวิทยาลัยรังสิต พบว่า ไทยมีเด็ก อายุ 0-6 ปี จำนวน 4.3 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 ล้านคน ต้องใช้ขนส่งสาธารณะหลากหลายรูปแบบในการเดินทางไปยังสถานศึกษา
เนื่องจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือโรงเรียนอนุบาลไม่ได้มีทุกหมู่บ้าน ระยะทางไกล และเกินครึ่งผู้ปกครองไม่สามารถรับส่งด้วยตัวเองได้ เด็กและเยาวชนจึงต้องใช้ขนส่งสาธารณะเป็นช่องทางหลักในการเดินทาง ต้องแบกรับความเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ การขาดความตระหนักในกฎจราจร ความประมาทเลินเล่อ คุณภาพสมรรถนะของยานพาหนะ รวมถึงการขาดความเอาใจใส่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
“เวทีสาธารณะที่คณะทำงานฯ ร่วมกับ สสส. จัดขึ้นในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการสานพลังหน่วยงานทั้งภาครัฐภาค ประชาสังคม และภาคประชาชน ร่วมกำหนดนโยบาย ระเบียบ และมาตรการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนนที่เข้มข้น รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ปกครองและสถานศึกษาใช้หนังสือนิทาน ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล เสริมทักษะให้เด็กและเยาวชนมีความสามารถในการใช้ถนนที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น” ผศ.สุนี กล่าว
น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า รายงานสถานการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2566 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 17,498 คน หรือคิดเป็นเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 48 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 0-24 ปี มากถึง 10 คน
เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน สาเหตุการเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 90.7% เมาแล้วขับ 38.3% ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 37.5% ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 33.5% ไม่คุ้นเคยเส้นทาง 17.3% ดังนั้น การคุ้มครองสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของเด็ก จึงควรถูกกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของทุกรัฐบาลที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
“สสส. มีแผนงานส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน ซึ่งมีต้นทุนการทำงานร่วมกับเครือข่ายและนักวิชาการ ที่ผ่านมา ได้พัฒนาให้เกิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบเพื่อความปลอดภัยทางถนน มากกว่า 100 แห่ง และสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศเข้ามาศึกษาโมเดลและองค์ความรู้นำไปปรับใช้กับพื้นที่ ทั้งนี้ สำหรับการพัฒนานโยบายด้านการดูแลความปลอดภัยของเด็กบนท้องถนนระยะยาว สสส. มีข้อเสนอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เร่งส่งเสริมประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน ทั้งการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนและรถทัศนศึกษา และนำเทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบให้เกิดความปลอดภัย
2.ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในเด็กและเยาวชน
3.ส่งเสริมให้สถานศึกษาปลูกฝังการเรียนรู้เรื่องวินัยจราจรและความปลอดภัยทางถนน” น.ส.ณัฐยา กล่าว
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า การดำเนินขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย สภาผู้บริโภค เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาหลักสูตรการจัดการรถรับส่งที่ปลอดภัยให้กับบุคลากรทางการศึกษา ผู้ขับรถรับส่ง และผู้ปกครอง เพื่อเพิ่มความรู้และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการเดินทาง และเสนอกระทรวงคมนาคม
โดยขอให้กำหนดรูปแบบใบอนุญาตขับรถยนต์ ประเภทรถรับส่งนักเรียน เป็นแบบมาตรฐานเฉพาะที่แตกต่างจากรถยนต์ส่วนบุคคลและหรือรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่น เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญ และความปลอดภัยสูงกว่าปกติ ในการบรรทุกผู้โดยสารที่เป็นเด็กนักเรียน
น.ส.สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดบ่อยในเด็กและเยาวชน มีทั้งเกิดจากตัวเด็กและความประมาทของผู้ใหญ่ ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมเป็นระยะๆ จากสถานการณ์ดังกล่าว แผนงานยุทธศาสตร์ฯ สสส. จึงเดินหน้าพัฒนาหนังสือนิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล” เพื่อให้ผู้ปกครอง ครู และผู้แวดล้อมเด็ก ใช้เป็นเครื่องมือชวนเด็กระวังภัยจากท้องถนน ผ่านการเน้นย้ำกฎสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่
1.นับ นับจำนวนเด็ก ก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
2.ตรวจตรา ก่อนล็อกประตูรถ
3.อย่าประมาท ทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้นๆ
สำหรับผู้สนใจสามารถเปิดอ่านและดาวน์โหลดไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บไซต์แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. www.happyreading.in.th