กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งอาสาสมัครเครือข่ายและประชาชนใน 12 จังหวัดได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567
ภาคกลาง
ภาคใต้
ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร ประกอบกับกับมีฝนตกสะสมต่อเนื่องหลายวันทำให้ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้
ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์แผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนการเฝ้าระวังที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว
อนึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 12 เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้มีผลกระทบจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง1 – 2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว
ในขณะที่จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนพัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ โดยมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตองล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย