สุริยะ สั่ง เยียวยา6 ผู้เสียชีวิต คานถล่ม พระราม2 รายละ ล้าน หยุดก่อสร้าง 14 วัน

29 พ.ย. 2567 | 13:31 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ย. 2567 | 14:08 น.

"สุริยะ" สั่งเยียวยาผู้เสียชีวิต 6 ราย ราลละ 1 ล้านบาท หยุดงานก่อสร้าง 14 วัน พร้อมเร่งหาสาเหตุคานถล่ม พร้อมงัดมาตรการลงโทษ รับเหมา ตามเหณฑ์ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง หากเกิดเหตุมีบุคคลถึงแก่ความตาย ถูกตัดสิทธิ์ประมูลงาน 1 ปี

 

จากเหตุการณ์คานสะพานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ทรุดตัว เป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบถึงความรู้สึกและความมั่นใจของประชานเป็นอย่างมาก

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

ล่าสุดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  ระบุว่า ในนามรมว.คมนาคมและในนามกระทรวงคมนาคมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สำหรับการเยียวยาครอบครัวผู้เสียขีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางกระทรวงสั่งการให้ดูแลเยียวยาอย่างเต็มที่

โดยสั่งการให้ผู้รับจ้างเยียวยารายละ 1 ล้านบาท พร้อมทั้งสั่งการให้บริษัทผู้รับผิดชอบโครงการหยุดงานก่อสร้างทันที 2 สัปดาห์ (14วัน)  พร้อมทั้งให้กรมทางหลวงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุข้อเท็จจริง และประเมินความปลอดภัยของโครงสร้าง ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมกรมทางหลวง สภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ดำเนินการและสรุปรายงานผลต่อกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน

สำหรับมาตรการลงโทษผู้ประกอบการที่ปฏิบัติงานก่อสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานของหลักวิชาช่าง หรือประมาทเลินเล่อร้ายแรง ปัจจุบัน กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้จัดทำร่างระเบียบฯ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รับเหมา รวมถึงมาตรการลงโทษ โดยหากเกิดเหตุที่มีบุคคลถึงแก่ความตาย จะถูกตัดสิทธิ์ในการประมูลงาน 1 ปี และหากเข้าเกณฑ์ถูกตัดสิทธิ์จำนวน 3 สัญญาขึ้นไป

คานถล่ม พระราม2

จะถูกตัดสิทธิ์ในการประมูลงานโครงการถัดไปของหน่วยงานรัฐทั่วประเทศ  รวมถึงจะมีมาตรการในการลดชั้นและถอดจากทะเบียนรายชื่อผู้รับเหมาที่มีสิทธิ์ประมูลงานของภาครัฐด้วย โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเป็นหลักในการพิจารณาร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานอื่นในสังกัดของกระทรวงคมนาคมที่มีงานก่อสร้าง เพื่อเร่งหารือกับกรมบัญชีกลางในการพิจารณานำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาบังคับใชัอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

“ผมขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในทุกมิติทั้งนี้ ขณะนี้กรมทางหลวงและผู้รับจ้างได้เตรียมความพร้อม ทั้งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ ร่วมกันวางแผนการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตออกจากพื้นที่ และเน้นย้ำการประเมินความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้อน พร้อมทั้งประเมินความแข็งแรงของโครงสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านวิศวกรรม ก่อนคืนพื้นที่ผิวจราจร เพื่อสร้างความรู้สึกและความมั่นใจในการเดินทางให้แก่ประชาชน” นายสุริยะ กล่าว