นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 เพิ่มเติม
ข้อมูลล่าสุดธนาคารออมสินได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประสบภัย รอบที่ 3 สำเร็จแล้ว โดยเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จ.ปัตตานี สงขลา นราธิวาสและ พัทลุง รวมโอนเงินสำเร็จรวม 166,795 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,501,155,000 บาท (โอนเงินเมื่อวันที่ 25, 26,27 ธันวาคม) รวม 5 จังหวัด 26 อำเภอ
“คาดว่า จะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบที่ 4 ของจ.กระบี่ ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ในวันที่ 3 ม.ค.68”
ทั้งนี้ จากข้อมูลการโอนเงินของธนาคารออมสินที่ผ่านมา 3 รอบ พบว่า ยังมีปัญหาการโอนเงินไปยังผู้ประสบภัยไม่สำเร็จ เนื่องจากประชาชนยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน และสถานะทางบัญชีไม่ปกติจำนวนกว่า 2,000 ครัวเรือน
“จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทำการตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย หากยังไม่ได้ผูกบัญชีฯ ขอให้ติดต่อธนาคารใดก็ได้เพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว”
สำหรับ 16 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 เพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.
ปภ.ขอเน้นย้ำให้จังหวัดเร่งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ลงทะเบียน ที่ยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่กำหนดและให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ไม่ให้มีการลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ
สำหรับผู้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือฯ ตามมติครม.ในครั้งนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยต้องเข้าเงื่อนไขที่ครม. กำหนด คือประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 20 พฤษภาคม-2 พฤศจิกายน
ส่วนประชาชนในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไปเท่านั้น
โดยได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสองกรณี