นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์สายการบินเจจูแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 7C 2216 ทำการบินออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลาประมาณ 02.11 น. จากหลุมจอด F6 ทางวิ่งขึ้น 02R ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน จ.ช็อลลาใต้ ประเทศเกาหลีใต้นั้น
ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดเหตุล้อของเครื่องบินไม่กางออก ทำให้ไถลไปตามรันเวย์ และเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ซึ่งในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสาร จำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มีผู้โดยสารคนไทยจำนวน 2 คนนั้น
“ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้หายโดยเร็ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป” นายสุริยะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ อีกทั้ง ได้มอบหมายให้หน่วยงานด้านการบินดำเนินการในการให้บริการกับผู้โดยสาร โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยสูงสุด ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ขณะเดียวกันยืนยันว่าขณะเครื่องบิน 7C 2216 ออกเดินทางจากทางวิ่ง 02R ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่มีรายงานสภาพผิดปกติ ทั้งในส่วนของอากาศยานและสภาพทางวิ่ง
นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีรายงานการชนนกหรือมีสิ่งกีดขวางบนทางวิ่ง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ทอท.ได้ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของอากาศยานและผู้โดยสาร โดยดำเนินมาตรการตรวจสอบทางวิ่ง ระบบไฟ ระบบขับไล่นก และการซ่อมบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล