ไฟไหม้รถทัวร์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ "บขส." ยันไม่พบผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

30 ธ.ค. 2567 | 01:52 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2567 | 01:57 น.

“บขส.” แจ้งเหตุรถโดยสารไฟไหม้ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ของรถร่วมฯ วิริยะทัวร์ ยันสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้ทันไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ลุยตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้น

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ รถโดยสารของวิริยะทัวร์ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ไฟไหม้ ที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 29 ธ.ค.2567 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นรถโดยสาร คันหมายเลข 18-14 ทะเบียน 16-6394 กรุงเทพฯ ของ บริษัท วิริยะทัวร์ (รถร่วมบริการ บขส.) เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ออกจากต้นทางกรุงเทพฯ เวลา  10.00 น. เมื่อมาถึง เขตตำบลนาแสง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 
 

ขณะเดียวกันพนักงานขับรถได้สังเกตเห็นควันบริเวณด้านหลัง จึงได้จอดรถและเปิดประตูด้านหน้า และประตูฉุกเฉิน เพื่อลำเลียงผู้โดยสารลงจากรถได้ทันท่วงที โดยผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 

นอกจากนี้ได้นำรถมารับผู้โดยสารไปปลายทางเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้รถโดยสารมีประกันภัย ซึ่งทางผู้ประกอบการจะให้ความช่วยเหลือ กรณีผู้โดยสารมีทรัพย์สินที่เสียหาย 

นายอรรถวิท กล่าวต่อว่า  รถโดยสารคันดังกล่าวเป็นรถร่วมบริการฯ ซึ่ง บขส. ได้เน้นย้ำถึงคุณภาพมาตรฐานด้านตัวรถ ความพร้อมของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และพนักงานขับรถ ในระดับสูงสุดเสมอ 
 

“ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บขส. จะดำเนินการ ตรวจสอบ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและนำมาใช้ในการกำกับดูแลและลงโทษ ตลอดจนออกมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายอรรถวิท กล่าว 

อย่างไรก็ตามบริษัทขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง แต่ด้วยการซักซ้อม การแก้ปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผ่านมา ทำให้สามารถอพยพผู้โดยสารลงจากรถคันดังกล่าวได้ในเวลาอันสั้น จึงไม่มีเหตุการณ์สูญเสียถึงแก่ชีวิต

ไฟไหม้รถทัวร์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ \"บขส.\" ยันไม่พบผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

ด้านบขส. ยังได้ดำเนินมาตรการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องตามนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยได้กำชับให้พนักงานขับรถ และ พนักงานต้อนรับ ของ บขส.

นอกจากนี้รถร่วมฯ สังเกตระบบเครื่องยนต์ และระบบเบรก ของรถโดยสาร ก่อนออกเดินทาง ถึงแม้จะมีการตรวจสภาพรถมาเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งให้จัดทำแผนบำรุงรักษารถให้มีความพร้อมให้บริการอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ