นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า กทพ. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน
ทั้งนี้สะพานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความปราบปลื้มแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าในพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสร้างประวัติศาสตร์ก่อนการเปิดใช้สะพานทศมราชัน
ขณะเดียวกันกทพ. จึงมีการจัดงาน “มหกรรมสุขเต็มสิบ” ระหว่าง วันที่ 10-19 มกราคม 2568 เวลา 16.00-22.00 น. เป็นเวลา 10 วัน โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมสะพานทศมราชัน พร้อมถ่ายภาพและเลือกชมสินค้า OTOP จากชุมชน ภายในงานได้รวมร้านค้าจากชุมชนและพันธมิตรกว่า 50 ร้านค้า
อย่างไรก็ตามกทพ. ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน กิจกรรมเดิน-วิ่งสร้างประวัติศาสตร์ ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 บนสะพานทศมราชัน นับเป็นการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันคาดว่าจะเปิดให้ใช้สะพานทศมราชันได้จริงภายในปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง ตลอดเส้นทางภายในสิ้นปี 68
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า มหกรรมสุขเต็มสิบ จะเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนได้เข้าถึงและเข้าชมสะพานทศมราชันในมุมมองที่ไม่เคยมีมาก่อน กิจกรรมนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เดินชม ถ่ายภาพและสัมผัสกับความงดงามของสะพานเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเป็นการรวมพลังของความสามัคคีผ่านกิจกรรมเดิน-วิ่ง และการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน กิจกรรมนี้เป็นมากกว่าความสนุกสนาน เพราะสะท้อนถึงความตั้งใจของ กทพ. ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไทย
ทั้งนี้ยังได้ร่วมกับหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในการดูแลประชาชนตลอดการจัดกิจกรรม พร้อมทั้งมีจัดจุดคัดกรอง จุดลงทะเบียนสำหรับประชาชน รวมถึงการประชาสัมพันธ์กฎระเบียบ ข้อบังคับ สำหรับประชาชนที่ต้องการขึ้นไปร่วมกิจกรรมด้านบนด้วย
นายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและบำรุงรักษา) กล่าวต่อว่า การเปิดสะพานทศมราชันถือเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งจะช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับโครงข่ายทางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งสะพานแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กทพ. ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย
ส่วนการออกแบบสะพานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงสามารถรองรับการจราจรได้ถึง 8 ช่องจราจร พร้อมโครงสร้างที่แข็งแรงรองรับแรงลมได้ถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก
สำหรับสะพานทศมราชัน เป็นสะพานคู่ขนานแห่งแรกของประเทศไทยที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นโครงการฯ ที่ กทพ. เชื่อว่าสะพานแห่งนี้จะไม่เพียงเป็นโครงสร้างสำคัญ แต่ยังกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่อีกด้วย
สำหรับการเปิดใช้สะพานทศมราชัน ประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ดังนี้
ส่วนกิจกรรมเดิน-วิ่งสร้างประวัติศาสตร์ บนสะพานทศมราชัน จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เปิดให้ขึ้นสะพานตั้งแต่เวลา 03.00 น. และเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งเวลา 05.00 น. ค่าสมัครเพียง 499 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจจะเปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ผู้สมัคร 10,010 คนแรก จะได้รับเสื้อ Finisher และ Top 100 ที่เข้าเส้นชัย จะได้รับเหรียญที่ระลึก ปี 2530 ปีที่เปิดสะพานพระราม 9 ทันทีหลังเข้าเส้นชัย สำหรับผู้ที่สมัครหลังจากนั้น ของที่ระลึกจะจัดส่งถึงบ้าน ภายใน 30 วันหลังจบงาน