กลุ่มเปราะบาง เตรียมรับเงินเยียวยาเดือน ม.ค.68 เช็ควันโอนเงินที่นี่

กลุ่มเปราะบางเตรียมรับเงินช่วยเหลือเยียวยางวดประจำเดือนมกราคม 2568 ในวันศุกร์ที่ 10 ม.ค.นี้ โดยเงินที่จะได้รับประกอบไปด้วย เด็กแรกเกิด -6 ขวบ รับเงินอุดหนุนบุตร ,ผู้สูงอายุ รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  และผู้พิการ รับเบี้ยความพิการ ซึ่งเงินช่วยเหลือเยียวยาจะได้กี่บาท และปฏิทินการโอนเงินช่วยเหลือเยียวยาตามปีงบประมาณ 2568 จะตรงกับวันไหนบ้าง สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ดังนี้

เงินอุดหนุนบุตร

• เด็กแรกเกิด-อายุ 6 ขวบ  รับเงินอุดหนุนบุตรจำนวน  600 บาท

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (จ่ายเป็นขั้นบันได)

• ผู้สูงอายุอายุ 60-69 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน  600 บาท
• ผู้สูงอายุอายุ 70-79 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน  700 บาท
• ผู้สูงอายุอายุ 80-89 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน   800 บาท
• ผู้สูงอายุอายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพจำนวน   1,000 บาท
   

เบี้ยผู้พิการ

• ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพจำนวน   800 บาท
• ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน 1,000 บาท

ส่วนกรณีที่ครม.ประกาศว่าจะมีการขยายเกณฑ์เงินอุดหนุนบุตรจากเดิมที่มีเงื่อนไข คือเด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี และคัดกรองรายได้ของครอบครัว จากเดิมครัวเรือนต้องมีสมาชิกที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี ล่าสุดที่ทำการปรับเปลี่ยนคือ ให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้

เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า

• เริ่มจากเด็กในครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 6 ปี
• รับเงินในอัตรา 600 บาท/คน/เดือน (เท่าเดิม)
• ไม่ต้องคัดกรองรายได้ของครอบครัว
   

ส่วนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เบี้ยผู้พิการก็จะมีการปรับเช่นเดียวกัน ทั้งนี้คาดว่าการปรับเกณฑ์เงินอุดหนุนบุตร และเพิ่มเบี้ยคนพิการ-เบี้ยผู้สูงอายุในอัตราใหม่ จะเริ่ม 1 ต.ค. 2568 หรือ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

ปรับเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ

• อายุ 60-69 ปี เดือนละ 700 บาท จากเดิม 600 บาท
• อายุ 70-79 ปี เดือนละ 850 บาท จากเดิมเดือนละ 700 บาท
• อายุ 80-89 ปี เดือนละ 1,000 บาท จากเดิมเดือน 800 บาท
• ตั้งแต่อายุ 90 ปีขึ้นไปเดือนละ 1,250 บาท จากเดิมได้เดือนละ 1,000 บาท
   

ปรับเพิ่มเบี้ยคนพิการ

• ปรับเบี้ยความพิการ1,000 บาทแบบถ้วนหน้า (เดิม 800 และ 1,000 บาท)

อนึ่งในส่วนของเงินสงเคราะห์บุตร ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ที่แต่เดิมช่วยเหลือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 เดือนละ 800 บาท และถูกปรับขึ้นมาเป็น 1,000 บาท เงินในส่วนนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป