สภาพอากาศวันนี้ -14 ม.ค.ไทยอากาศเย็นถึงหนาว กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศา

08 ม.ค. 2568 | 17:30 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ -14 ม.ค.68 ไทยอากาศเย็นถึงหนาว ยอดดอยมีน้ำค้างแข็ง วันที่ 10-14 ม.ค.อุณหภูมิลดฮวบ กทม.ปริมณฑล อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้- 14 มกราคม พ.ศ. 2568 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า) ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. 68 ประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า

 

ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ -14 ม.ค.ไทยอากาศเย็นถึงหนาว กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศา

 

ต่อมาในวันที่ 10 – 14 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ข้อควรระวังวันที่ 10 – 14 ม.ค.68

  • ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง 
  • ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง 
  • เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง 
  • ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย


กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 8 - 14 มกราคม พ.ศ. 2568

กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 8 - 9 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

วันที่ 10 – 14 ม.ค. 68

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคเหนือ
วันที่ 8 - 10 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 11 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

วันที่ 11 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 1 - 7 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 8 - 9 ม.ค. 68

  • อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 10 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

วันที่ 10 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นถึงหนาวจัด กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 7 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 9 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง

ภาคกลาง
วันที่ 8 - 9 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

วันที่ 10 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
วันที่ 8 - 9 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

วันที่ 10 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 8 - 9 ม.ค. 68

  • อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส

วันที่ 10 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 10 – 12 ม.ค. 68 มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 30 องศาเซลเซียส

สภาพอากาศวันนี้ -14 ม.ค.ไทยอากาศเย็นถึงหนาว กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศา ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
วันที่ 8 - 10 ม.ค. 68

  • อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

วันที่ 11 – 14 ม.ค. 68 

  • อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค กับมีฝนฟ้าคะนอง