สถานการณ์ ไฟป่าเขาใหญ่ ดงพญาเย็น ยังคงน่าเป็นห่วง หลังเจ้าหน้าที่ ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ 3 นครราชสีมา รับแจ้งเหตุไฟป่าปะทุขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณพื้นที่เขาลอย ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ล่าสุดในวันนี้ (10 มกราคม 2568) ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา แจ้งว่า ได้ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) และศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านครราชสีมา กรมอุทยานฯ รวมกำลังพลจำนวน 33 นาย
พร้อมร่วมสนธิกำลังควบคุมไฟป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน ท้องที่ บ้านโนนกระโดด หมู่ที่ 7 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยแบ่งกำลังปฏิบัติงานเป็น 2 ชุด เพื่อดับไฟป่า
สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าเขาใหญ่นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา หลังจากศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าฯ ได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีเหตุไฟไหม้ป่าติดด้านหลังวัดอุดมสุข หมู่ที่ 7 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ทางศูนย์ฯ ได้นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็นเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบกลุ่มควันไฟและไฟกำลังลุกลามในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน จึงเข้าดำเนินการควบคุมไฟป่าตั้งแต่เวลา 11.30 น. จนสามารถดับไฟแล้วเสร็จเวลา 21.00 น. เบื้องต้นไม่ทราบสาเหตุของการเกิดไฟ มีพื้นที่เสียหายประมาณจำนวน 200 ไร่
ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น. ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าฯ ได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบริเวณบ้านหัวโกรก หมู่ที่ 7 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์ฯนำทีมโดย นายเทพนุรัตน์ สนสูงเนิน นักวิชาการป่าไม้ และพนักงานดับไฟป่า จำนวน 12 นาย เข้าพิสูจน์ทราบร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็น
โดยพบกลุ่มควันไฟและกำลังลุกลามในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน จึงเข้าดำเนินการควบคุมไฟป่า เวลา 18.00 น. สามารถควบคุมไว้ได้แค่บางส่วน
แต่เนื่องจากพื้นที่ยากต่อการเข้าควบคุม และมีลมแรงเสี่ยงเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ จึงถอนกำลังกลับที่ตั้งเพื่อวางแผนการเข้าควบคุมต่อเช้าวันรุ่งขึ้น มีพื้นที่เสียหายโดยประมาณ 41 ไร่ สาเหตุเกิดจากการล่าสัตว์ เนื่องจากพบปลอกกระสุนปืนจำนวนหนึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้มีรายงานแจ้งว่า หลังได้มีการประเมินพื้นที่เสียหายในเบื้องต้นนั้นมีพื้นที่เสียหายกว่า 200 ไร่ รวมแล้วมีพื้นที่ป่าเสียหายแล้วประมาณ 1,000 ไร่
ภาพและข้อมูล : ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ 3 นครราชสีมา