"บิ๊กตู่"ไปเวียดนามประชุมเอเปก เผยยังไม่ได้ทูลเกล้าฯปรับครม.ใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเวียดนาม ร่วมประชุมเอเปค เผยยังไม่ได้ทูลเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

-10 พ.ย.60-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะ ออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติดานัง นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC Economic Leaders’ Meeting) ครั้งที่ 25 ที่นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2560

ก่อนออกเดินทางนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนสั้น ๆว่า ยังไม่ทูลเกล้าฯ การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมได้กล่าวอีกว่า ฝากดูแลประเทศด้วย

สำหรับ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก มีหัวข้อหลัก คือ การสร้างพลวัตใหม่และการส่งเสริมการพัฒนาไปสู่อนาคตร่วมกันภายใต้ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุม สร้างสรรค์ และยั่งยืน / การส่งเสริมการการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค /การส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรมแก่วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในยุคดิจิทัล /การส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โอกาสนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินการของไทยที่สำคัญในกรอบเอเปก รวมทั้งจะได้ร่วมหารือเกี่ยวกับวาระของเอเปกหลัง ปี ค.ศ. 2020 (Post-2020 Vision) ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดหัวข้อ และประเด็นหลักสำหรับการประชุมเอเปก ในปี 2565 (ค.ศ. 2022) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพด้วย

ส่วนการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน นอกจากจะมีการประชุมของผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 2 ในรอบปีแล้ว ยังเป็นการประชุมร่วมกับผู้นำของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เช่น จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ รัสเซีย และสหประชาชาติ รวมทั้ง ผู้นำจากประเทศที่เป็นแขกพิเศษของประธานคือ แคนาดา และสหภาพยุโรป เพื่อหารือและร่วมประเมินสถานการณ์โลกในปัจจุบัน และร่วมกันกำหนดทิศทางความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับแต่ละประเทศคู่เจรจา พร้อมๆ ไปกับการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือต่างๆ ที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง