… รุ่งสางของวันที่ 24 พ.ค. ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ
"เข้าควบคุมตัวพระชั้นผู้ใหญ่" หลายรูปในคดีทุจริตเงินทอนวัด พ่วงด้วยการบุกค้นวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เข้ารวบตัว
'พระพุทธอิสระ' หรือ
'หลวงปู่พุทธอิสระ' เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย คากุฏิ ตามหมายจับศาลอาญาใน
'คดีอั้งยี่ ซ่องโจร' และ
'คดีปลอมพระปรมาภิไธย' ของชุดคอมมานโดกว่า 100 นาย ได้สร้างแรงสะเทือนต่อวงการพระสงฆ์ไทย
ในคำร้องฝากขังกล่าวหาว่า กระทำผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังเจ้าพนักงาน ใช้ให้ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนจิตใจผู้อื่น อั้งยี่ ซ่องโจร จากกรณีที่การ์ด กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ ทำร้ายร่างกายและเข้าปล้นอาวุธปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 2 นาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา (ม.) 296, ม.298, ม.310 วรรค 2, ม.309 วรรค 2 และวรรค 3, ม.339 วรรค 2, ม.340 วรรคแรกและวรรค 3 และ ม.213 ประกอบ ม.84
ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.296 ความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุฉกรรจ์ ระบุว่า ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ม.298 ความผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัสโดยมีเหตุฉกรรจ์ ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี
ม.309 วรรค 2 ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ม.309 วรรค 3 ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่ หรือ ซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท
ม.310 วรรค 2 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ม.339 วรรค 2 ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท และ ม.340 ผู้ใดชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 10-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-30,000 บาท
'คดีปลอมพระปรมาภิไธย' จัดสร้างพระนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี ด้านหลังมีพระปรมาภิไธยย่อ เมื่อปี 2552 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.250 และ ม.252 ผู้ใดทำปลอมและผู้ใดใช้ดวงตราแผ่นดิน รอยตราแผ่นดิน หรือ พระปรมาภิไธย ต้องระวางจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท
จากฐานความผิดทั้ง 2 คดีรวมกัน อาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 75 ปี และปรับเกือบ 3 แสนบาท!!!
เส้นทาง ‘พุทธอิสระ’ ชาย 3 โบสถ์
พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ ที่คุ้นเคยกันในนาม
'พระพุทธอิสระ' หรือ
'หลวงปู่พุทธอิสระ' อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เดิมชื่อ
'สุวิทย์ ทองประเสริฐ' เกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2499 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของนายชมพู และนางอัมพร ทองประเสริฐ
อุปสมบทครั้งแรกเมื่ออายุ 20 ปี ที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ก่อนสึกออกไปรับราชการทหาร กลับมาอุปสมบทอีกครั้งเมื่อปี 2526 ที่ จ.พัทลุง ได้ฉายาว่า
'พระสุวิทย์ธมฺมธีโร' ได้ริเริ่มสร้างวัดอ้อน้อย จากที่ดินบริจาคที่ ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อปี 2532 และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เมื่อปี 2538
กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง แทนเจ้าคณะรูปเดิมที่มรณภาพไปเมื่อปี 2542 ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง พร้อมกับสึก และอุปสมบทใหม่เป็นครั้งที่ 3 เมื่อเดือน ต.ค. 2544 ได้ฉายาใหม่ว่า
'พระสุวิทย์ธีรธมฺโม'
ก่อนจะถูกจับสึก เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันในคดีอั้งยี่ซ่องโจรและคดีปลอมพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพ นับเป็นการสึกครั้งที่ 3 เข้าทำนอง
'ชายสามโบสถ์'
มีบทบาทสำคัญทางการเมืองมาต่อเนื่อง ขึ้นเวทีแสดงธรรมให้กำลังใจผู้ชุมนุมหลายครั้งหลายสถานที่ในช่วงวิกฤตการณ์การเมืองไทย ปี 2556-2557 เป็น 1 ในแกนนำ กปปส. ร่วมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทั่งนำมาสู่การเข้ายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมถึงการเข้ายื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้อายัดทรัพย์พระธัมมชโย
……………….
รายงานพิเศษ โดย ทีมข่าวการเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
"พุทธอิสระ"ยื่น"มีชัย" เพิ่มอำนาจปปช. สอบเจ้าคณะสังฆาธิการ
●
นายกฯ ขอโทษแทน จนท. บุกจับ 'พุทธะอิสระ' รุนแรง กำชับใช้วิธีการเหมาะสม