ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันไฟไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เสียชีวิต 3 ศพ เจ็บอีก 7 ราย ด้านนายกฯ เสียใจ กำชับเร่งหาสาเหตุ พร้อมแนะประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง
- 10 เม.ย.2562 - เมื่อเวลา 17.40 น.วันนี้(10 เม.ย.62) พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงเขตปทุมวัน กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยกว่า 20 คัน และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบต้นเพลิง บริเวณชั้น 8 อาคารบี ฝั่งวัดปทุมวนาราม ประชาชนที่มาใช้บริการที่ห้างและผู้มาใช้โรงแรมต่างวิ่งหนีตายอลหม่านจนเกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างได้พยายามกันประชาชนออกนอกพื้นที่ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลาที่มีผู้เลิกงานกันเป็นจำนวนมากทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าบริเวณที่เกิดเหตุได้ ต้องใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าที่รถดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยจะสามารถเข้าบริเวณที่เกิดเหตุได้
กระทั่งเวลาผ่านไปราว 10 นาที บริเวณที่เกิดเหตุได้มีกลุ่มควันและแสงเพลิงออกมาเป็นจำนวนมาก พบว่ามีผู้ติดอยู่บริเวณต้นเพลิงได้กระโดดหนีไฟลงมาร่างกระแทกหลังคาบริเวณชั้น 2 ประตูทางเข้าโหลดสินค้า ประชาชนที่ยืนเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ต่างหวีดร้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บรายที่ 2 รายที่กระโดดลงมาจากอาคารนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เนื่องจากสำลักควันไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำดับเพลิงประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ ซึ่งยังเหลือแต่กลุ่มควันอีกจำนวนมาก บริเวณชั้น 7 และชั้น 8 ที่ต้องเร่งระบายกลุ่มควันออกจากบริเวณภายในอาคาร พร้อมส่งเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงเข้าสำรวจอาคาร ที่อาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือมีผู้ติดค้างภายใน แต่พบว่าเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม. กลุ่มควันยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 19.00 น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายหลังเข้าการสำรวจที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเกิดจากชั้นที่ 8 บริเวณห้องเก็บเอกสาร ซึ่งขณะนี้เพลิงได้สงบหมดแล้วยังเหลือแต่กลุ่มควัน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาฯ อีก 2 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ 5 คน และที่โรงพยาบาลราชวิถีอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมดและเป็นเจ้าหน้าที่ของอาคารเอง ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
“เบื้องต้นได้สั่งให้ปลัด กทม และ ผอ.เขตปทุมวันออกคำสั่งหยุดใช้อาคารชั่วคราว ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง” ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ
ขณะที่ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานเหตุเพลิงไหม้โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมทั้งห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
"นายกฯ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางป้องกันแก้ไข และยังฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังอัคคีภัย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งและร้อน โดยตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟฟ้าเก่า และดับเปลวไฟให้สนิทเมื่อไม่ใช้งานทั้งการหุงต้มอาหาร การจุดไฟหรือตะเกียง เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก"
ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้ชี้แจงว่า กรณีเหตุการณ์กลุ่มควันบริเวณช่องท่อระบายควันชั้น 8 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเวลาประมาณ 17.40 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2562 นั้น ทางโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า แขกผู้เข้าพักและพนักงานของโรงแรมทุกคนปลอดภัย และไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายใดใด พร้อมกันนี้ ทางโรงแรมฯไม่ได้รับความเสียหายใดใดจากเหตุการณ์ดังกล่าว
โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ขอยืนยันว่า แขกผู้เข้าพักและพนักงานของโรงแรมทุกคนปลอดภัย ทั้งนี้ ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของแขกผู้เข้าพักและพนักงานทุกคนเป็นสิ่งที่เซ็นทาราให้ความสำคัญสูงสุด ขอขอบคุณทุกท่านในความห่วงใย โดยหากมีความคืบหน้า จะรีบแจ้งให้ทราบต่อไป
อ่าน | ด่วน!ไฟไหม้ลานจอด "เซ็นทรัลเวิลด์" เร่งอพยพคน
อ่าน | เซ็นทรัลเวิลด์เพลิงสงบ เบื้องต้นเจ็บ 2 เสียชีวิต 1 ราย