5 แกนนำ พธม.ได้รับอิสรภาพแล้ว ยกเว้น “สนธิ”ได้รับการลดโทษ ด้านรสนา- ไชยวัฒน์ พร้อมประชาชนรอต้อนรับและให้กำลังเพียบ
เวลา 09.50 น.วันที่ 10 พ.ค. 62 ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 8 เดือน ในคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในปี 2551 ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายสุริยะใส กตะศิลา ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจาก มีประชาชนกว่า200คน มารอต้อนรับและให้กำลังใจ อาทิ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กทม. นางสุนีย์ ไชยรส อดีตกสม.นายสำราญ รอดเพชร อดีตแกนนำกปปส. นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังธรรม นายอุทัย ยอดมณี อดีตแกนนำ กปปส. นพ.มโน เลาหวณิช นายสุรักษ์ ศิวรักษ์
ต่อมาเวลา 10.50 น.ที่หน้าโรงพยาบาลราชทัณฑ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้รับการปล่อยตัวออกมาเช่นกัน หลังจากแกนนำทั้งหมด ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถูกพิพากษาจำคุกในคดี พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ด้วย แต่ก็ได้รับการลดโทษตามสัดส่วน
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่ความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัว เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ และเป็นโอกาสอันสำคัญที่เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จะได้นำผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ รวมถึงครอบครัวญาติพี่น้องของผู้ต้องราชทัณฑ์ ร่วมถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตนได้เดินทางไปเป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส ในการบรรพชาสามเณรหมู่ให้กับผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษรวม 20 ราย ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และขอบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขที่มีญาติพี่น้องมารอรับ สำหรับการปล่อยตัวกลับบ้านของทุกเรือนจำ จะได้มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชา และพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และญาติมิตรได้ร่วมถวายสักการะ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนจะตั้งใจทำความดีสนองคุณพระองค์ท่านและแผ่นดิน
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวด้วยว่า การพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์คาดว่า จะมีผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวประมาณ 3-5 หมื่นคน และได้รับการลดโทษอีกจำนวนมาก โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อม ก่อนปล่อย ได้แก่ การให้การศึกษา การพัฒนาจิตใจและส่งเสริมศีลธรรมจรรยาด้วยหลักสูตรสัคคสาสมาธิ ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร และการฝึกอบรมวิชาชีพในหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเตรียมตัวกลับสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ
นอกจากนี้ หลังจากพ้นโทษแล้ว ยังได้เตรียมแผนรองรับการช่วยเหลือผู้พ้นโทษ ซึ่งได้บูรณาการเครือข่ายภาครัฐ และสังคม ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตาม ดูแล และช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้มิให้กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์เชื่อว่า กระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย และเครือข่ายภาคสังคมที่เข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ จะสามารถทำให้ผู้พ้นโทษได้กลับสู่สังคมได้อย่างปกติสุข และหวังว่าสังคม ตลอดจนผู้ประกอบการหรือห้างร้านบริษัทต่างๆ จะให้โอกาสผู้พ้นโทษเข้าทำงานร่วมให้กำลังใจและเปิดใจยอมรับผู้ก้าวพลาด ให้ได้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม เพื่อไม่ให้เขาเหล่านั้นหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
สำหรับนักโทษในเรือนจำกลุ่มลาดยาวที่จะทำการปล่อยผู้ต้องขังที่ได้รับอภัยโทษรอบแรก ในวันที่ 10 พ.ค 62 มีจำนวนทั้งสิ้น 670 ราย ประกอบด้วยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 238 คน ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณท์ 72 ราย ทัณฑสถานหญิงกลาง 218 คน เรือนจำกลางคลองเปรม 49 คน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 102 คน