“ประหยัด” แถลงโต้ “ป.ป.ช.” ไม่ให้ความเป็นธรรม ปมชี้มูลปกปิด ทรัพย์สิน 227 ล้าน แถมถูกกลั่นแกล้งเหตุเป็นแคนดิเดตชิงเลขาฯ ป.ป.ช. ชี้ช่องส.ส.ตั้งเรื่องไต่สวน ป.ป.ช.ทั้งคณะ-ยื่นถอดถอนป.ป.ช.
วันนี้(15 ส.ค.) เวลา 18.00 น. ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมูลค่ากว่า 227 ล้านบาทว่า ข้อเท็จจริงกรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งแรกเมื่อปี 2560 โดยเข้าใจเรื่องบัญชีทรัพย์สินคลาดเคลื่อนของภรรยา นึกว่าบัญชีเงินฝากปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเปิดใช้งานอยู่ พอทราบทีหลัง ตนบริสุทธิ์ใจจึงได้ยื่นทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นเงินฝาก 3 บัญชี รวมถึงเรื่องเช่าซื้อห้องชุดที่อังกฤษ ที่ภรรยาทำธุรกิจร่วมกับบุคคลอื่น และถือครองกรรมสิทธิ์แทน โดยไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ และชี้แจงไปแล้วอย่างบริสุทธิ์ใจ
การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้ง และดำเนินการไม่ชอบหลายประการ ไม่ให้ความเป็นธรรม และไม่เคยให้โอกาสเข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง โดยการไต่สวนไม่ชอบตามกฎหมาย และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 ที่ต้องพิสูจน์เจตนาและการดำเนินการกับข้าราชการ ป.ป.ช.
“ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคดีพาดพิงกับบางสิ่งบางอย่าง คดีเหล่านั้นที่ยังไม่มีข้อยุติ มีปัญหาคาราคาซัง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมได้อย่างไร กระบวนการไต่สวนต้องแยกการไต่สวนในแต่ละเรื่อง แต่เรื่องนี้การไต่สวนไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 และ 236 และไม่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 114 เมื่อผมชี้แจงว่าภรรยาถือครองทรัพย์สิน ไม่ต้องยื่นด้วยซ้ำ พิสูจน์สิว่าทรัพย์สินที่ถือครองเป็นของภรรยาจริง หรือลงทุนจริง ถ้าไม่ใช่ค่อยมาว่าผม”
นายประหยัด กล่าวอีกว่า ปัจจุบันยื่นฟ้องนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ความคืบหน้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้คำฟ้อง
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีตนที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีนี้ ตามกฎหมายบอกว่าต้องส่งให้อัยการพิจารณา ยังมีโอกาสขอความเป็นธรรมต่อทนายแผ่นดิน พิสูจน์เจตนาว่าขั้นตอนการไต่สวนเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ตนไม่ใช่คนทุจริต เรื่องนี้เป็นเรื่องข้อบกพร่อง ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของภรรยา ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ การนำสืบต่างๆ เป็นตัวภรรยาที่หลงลืม ไม่ผมหลงลืม การที่ภรรยาสำคัญผิด ย่อมเกิดขึ้นได้ ยืนยันเป็นการยื่นทรัพย์สินครบถ้วนทุกขั้นตอน
นายประหยัด กล่าวอีกว่า ขอฝากสื่อมวลชน องค์กรยุติธรรมต่าง ๆ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือการถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ฝากเรียนไปยังพรรคการเมือง หรือ ส.ส.พรรคต่าง ๆ ถ้าเห็นว่าประเด็นตนมีข้อไม่เป็นธรรม ควรหยิบยกไปไต่สวนในสภา ขอเชิญมาบอกกับตนได้ จำนวนสมาชิก 125 เสียงเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานสภา ไต่สวนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะ หรือประชาชน 2 หมื่นรายเข้าชื่อถอดถอนในประเด็นการดำเนินการที่มิชอบได้ ตนยินดีให้ความร่วมมือในกระบวนการว่าถูกต้องหรือไม่
เมื่อถามว่าคดีนี้มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีบริษัทเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย นายประหยัด กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นนานมาก ตนไม่เคยยุ่งเลย เคยไปอินโดนีเซียแค่ครั้งเดียวกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. โดยไปศึกษาดูงาน ไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. และภรรยาตนไม่เคยไปอินโดนีเซีย ไม่เคยรู้จักเหมือนกัน แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีการเชื่อมโยง คิดเอาเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่มีการพิสูจน์ ต้องพิสูจน์ให้ชัดก่อน
เมื่อถามว่ามูลเหตุที่ทำให้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันคืออะไร นายประหยัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกับนายวรวิทย์ แต่เมื่อนายวรวิทย์ เป็นเลขาฯ ตนได้เป็นรองเลขาฯ และถูกลดบทบาทในการทำงาน บางครั้งต้องรักษาการรองเลขาฯ และสุ่มเสี่ยงถูกประเมินผลงานให้ถูกออกจากราชการ