ศาลปกครองกลางชี้คำสั่งให้ “วัฒนา อัศวเหม” ชดใช้คดีคลองด่าน กว่า 4 พันล้านชอบแล้ว รอลุ้นอุทธรณ์ศาลสูงอีกยก
วันนี้(13 ก.ย.62) ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา ให้เพิกถอนคำสั่งกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ลงวันที่ 18 เม.ย.57 ในส่วนที่ให้ นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (ตกเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดศาลฎีกาจำคุก 3 ปีคดีอาญาร่วมฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดินก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน อายุความรับโทษ 10 ปี นับจากปี 2561 และผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำคุก 10 ปี ฐานใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ จูงใจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ ออกโฉนดที่ดินเนื้อที่ 1,900 ไร่ เอกชนนำไปขายให้รัฐทำโครงการฯ ซึ่งปัจจุบันนายวัฒนา ก็หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ อายุความรับโทษ 15 ปีนับจากปี 2551) รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ในส่วนที่ต้องผูกพันกับ คพ. ในการจ่ายเงินให้ผู้รับจ้าง ในงวดงานที่ผู้รับจ้างดำเนินการไปแล้ว งวดที่ 55-58 จำนวน 111,250,327 บาท
เนื่องจากไม่ปรากฏว่า ขณะที่ออก คพ. คำสั่งให้ นายวัฒนา ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน คพ. ได้ชำระเงินส่วนดังกล่าวให้แก่ผู้รับจ้างแล้วแต่อย่างใด ดังนั้นการที่ คพ. มีคำสั่งให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาเป็นค่าเสียหาย นายวัฒนา จะต้องร่วมชดใช้เงินในส่วนนี้ด้วย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่ในส่วนที่ คพ. มีคำสั่งให้ นายวัฒนา ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนค่าจัดซื้อที่ดินโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นเงินจำนวน 729,600,000 บาท ที่เป็นอัตราร้อยละ 80 ของค่าเสียหาย และส่วนของการดำเนินการตามโครงการที่มีการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างไปแล้ว ให้ชดใช้อัตราร้อยละ 30 คือจำนวน 4,526,789,829 บาท และ 36,403,166.157 เหรียญสหรัฐนั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพราะเป็นการออกคำสั่งที่คำนึงถึงระดับความร้ายแรง และเป็นธรรมแล้ว
ดังนั้น ศาลปกครองกลาง จึงมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง คพ. ลงวันที่ 18 เม.ย.57 เฉพาะส่วนที่ให้ นายวัฒนา ผู้ฟ้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เกินกว่า 4,526,789,829 บาท และ 36,403,166.157 เหรียญสหรัฐ
(อ่านรายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็ม คลิกที่ http://bit.ly/2lN3jPI )
โดยคดีนี้ นายวัฒนา อดีต รมช.มหาดไทย ยื่นฟ้อง อธิบดี คพ. และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกคำสั่งโดยมิชอบฯ เป็นคดีหมายเลขดำ 1531/2557 ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของ คพ. ลงวันที่ 18 เม.ย.57 ที่ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 5,289,764,927.40 บาท และ 36,403,166.157 เหรียญสหรัฐ กับขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงวันที่ 27 มิ.ย.57 ที่ยกคำอุทธรณ์คัดค้านการชดใช้ค่าเสียหายของนายวัฒนา
ทั้งนี้ นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง อธิบายคำพิพากษาดังกล่าวว่า ที่ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนเฉพาะส่วนที่ให้ นายวัฒนา ผู้ฟ้อง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เกินกว่า 4,526,789,829 บาท และ 36,403,166.157 เหรียญสหรัฐ นั้นหมายถึงเงินในส่วนที่ คพ. จะต้องจ่ายให้ผู้รับจ้าง ในงวดงานดำเนินการไปแล้ว จำนวน 111,250,327 บาท แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าขณะคำสั่งให้ นายวัฒนา ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน คพ. ยังไม่ได้ชำระเงินส่วนดังกล่าวให้แก่ผู้รับจ้าง จึงถือว่ายังไม่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ต้องให้เพิกถอน
แต่เงินส่วนอื่นๆ ศาลเห็นว่าออกคำสั่งโดยชอบแล้วนายวัฒนาก็ต้องชดใช้ (ส่วนค่าจัดซื้อที่ดินโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน 729,600,000 บาท กับค่าการดำเนินการตามโครงการที่มีการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างไปแล้วอัตราร้อยละ 30 จำนวน 4,526,789,829 บาท และ 36,403,166.157 เหรียญสหรัฐ)
อย่างไรก็ดี ผลคดีปกครองนี้กระบวนการยังไม่สิ้นสุดตามกฎหมาย ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่อ่านคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลปกครองชั้นต้นในวันนี้ (13 ก.ย.62) ขณะที่หากสุดท้ายแล้วคำพิพากษาถึงที่สุดอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น เช่น หากเห็นว่าคำสั่ง คพ. ออกโดยชอบ นายวัฒนา ก็ต้องชดใช้ตามจำนวนที่ออกคำสั่งโดยชอบ แต่ถ้าไม่มีเงินก็ต้องบังคับคดีจากทรัพย์อื่นที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ แต่ถ้าผลถึงที่สุดให้เพิกถอนคำสั่ง คพ. ก็เป็นอันยุติในส่วนคดีคำสั่งทางปกครองเรื่องการให้ชดใช้ค่าเสียหาย