นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อทำงานเชิงรุกและรับมือในสถานการณ์ไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วม จำนวน 43 ราย ประกอบด้วย สมาคม จำนวน 9 สมาคม (สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย สมาคม ผู้ผลิตอาหารสาเร็จรูป สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้ผลิตไก่ เพื่อส่งออกไทย สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยา แผนปัจจุบัน และสมาคมผู้วิจัยและผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์) ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 22 ราย (หมวดของใช้ประจาวัน 5 ราย หมวดอาหารและเครื่องดื่ม/ผลิตภัณฑ์นม 14 ราย ยาและเวชภัณฑ์/เจลล้างมือ 9 ราย) ห้างสรรพสินค้า จำนวน 6 รายว่า เพื่อเตรียมรองรับมาตรการของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งอาจจะส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น
จึงได้เชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารือและรับฟังสถานการณ์การบริโภคและการผลิตสินค้า เบื้องต้นพบว่า สำหรับอาหารสำเร็จรูป มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการค้าออนไลน์เห็นได้จากกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นอีก 30% ทั้งนี้ ผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือและยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคา และจะผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค ไม่ให้ขาดแคลนในตลาดอย่างแน่นอน โดยประชาชนมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกกระจายเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในช่วงที่ประเทศมีปัญหาขณะนี้ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำความสะอาด เช่นเจลล้างมือโดยผู้ผลิตจะเร่งผลิตและกระจายเพื่อให้มีจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย ขณะนี้ โรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยเร่งผลิตเพื่อนำส่งศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย เพื่อที่จะกระจายไปยังหน่วยงานต่างๆรวมไปถึง เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยจะเร่งจัดสรรและกระจายไปให้ได้โดยเร็วที่สุด ตามปริมาณและจำนวนที่จัดสรรไว้แล้ว ล่าสุดกรมการค้าภายในได้ออกประกาศ กกร. 3 ฉบับ
โดยฉบับที่หนึ่ง ได้กำหนดเนื้อหาให้ผู้ผลิตผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกหรือผู้ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหน้ากากอนามัยจะต้องแจ้งข้อมูลมายังกรมการค้าภายในซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการทุกวัน สำหรับประกาศฉบับที่สองมีเนื้อหาหลักในการให้จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาทและประกาศฉบับที่สามคือประกาศเรื่องเจลล้างมือคือการควบคุมราคาห้ามขายสูงกว่าราคาที่ได้แจ้งไว้ หากพบว่ามีการจำหน่ายเกินราคาหรือแพงเกินสมควรจะมีโทษตามกฎหมายทันที