วันนี้(29 มิ.ย.63) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน หรือ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ตามที่คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นประธาน เป็นผู้เสนอ
พร้อมกันนี้ศบค.ก็อนุมัติมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ระยะที่ 5 หรือ คลายล็อกเฟส 5 ในกลุ่มกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ให้กลับมาเปิดบริการได้วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ได้แก่
1.การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษา โดยจะมีการเปิดทั้งหมดทั้งของรัฐ-เอกชนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ เปิดได้ทุกแห่งโดยไม่จำกัดเวลา ให้กลับไปในรูปแบบเดิมทั้งหมด
3. สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ
4. ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต ที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบการที่ถูกต้อง
5. สถานประกอบกิจการ อาบอบนวด โรงน้ำชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยทุกกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดผู้ให้บริหารและผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ด้วยแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ หรือจดบันทึกรายงานแทนได้ พร้อมกับการเฝ้าระวังโรค สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิร่างกาย มีระบบระบายอากาศ ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนรวมของร้านเพื่อติดตามกำกับบันทึกข้อมูลในช่วงเวลามากกว่า 1 เดือน