หลังการประกาศลาออกของ 4 กุมารพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ อดีตกรรมการบริหารพรรค
เกิดกระแสข่าวสะพัดหนาหูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมปรับทัพคณะรัฐมนตรีรอบใหม่ครั้งใหญ่ แว่วๆว่ารอบนี้อาจมีรัฐมนตรีตกเก้าอี้อย่างน้อย 10 ที่นั่ง งานนี้ใครจะได้ไปต่อคงต้องลุ้นกันแบบเหงื่อตก หากทำผลงานมาดีก็คงไม่มีปัญหา
เมื่อมองถึง “ตัวเลือก” ที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรีที่โดดเด่นและน่าสนใจมากที่สุดเวลานี้ คือ คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นฝีมือลายมือกันมาแล้วจากการแก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19 ของประเทศ พูดได้คำเดียวว่า คณะที่ปรึกษาฯชุดนี้ “ไม่ธรรมดา”
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปัจจุบันอายุ 60 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้าปริญญาโท Master of Public Administration, Pi Alpha Alpha (National Honor Society for Public Affairs and Administration), Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาเอก สาขาการวิเคราะห์นโยบาย การบริหารรัฐกิจและการเมืองเปรียบเทียบ Northern Illinois University ประเทศสหรัฐอเมริกา
อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.), เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อปี 2556-2557 เป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557-30 ก.ย. 2559 และเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ระหว่างปี 2559-2561
นอกจากนี้ยังเคยเป็นกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการข้าราชาการพลเรือนในถานบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.)
รวมถึงเป็น ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรม (องค์การมหาชน),กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) และกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นต้น
นายวีรไท สันติประภพ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอายุ 51 ปี ชื่อ “วิรไท” นั้น เป็นนามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีความหมายว่า “ผู้มีเสรีแกล้วกล้า” มีชื่อเล่นว่า “ก็”
จบจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และโรงเรียนสาธิตปทุมวัน สอบเทียบจากชั้นม.4 ไปเรียนชั้น ม.6 สอบเข้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ได้รับเหรียญทองทางด้านวิชาการ 4 เหรียญ และด้านช่วยเหลือกิจกรรมดีอีก 1 เหรียญ ได้รับพระราชทานทุนภูมิพล
ตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นบัณฑิตเศรษฐศาสตร์ด้วยวัยเพียง 18 ปีเศษ
จากนั้นได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดลไปศึกษาต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดสหรัฐอเมริกา เมื่ออายุได้ 24 ปี
เริ่มทำงานที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กรุงวอชิงตันดีซี ให้คำปรึกษารัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศสมาชิกโดยเฉพาะประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤติด้านเศรษฐกิจและวิกฤติสถาบันการเงิน ครอบคลุมประเทศในเอเชียอย่าง ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และแอฟริกา
เมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจในไทยเมื่อปี 2540 ได้ลาพักจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กลับมาเป็น ผู้อำนวยการร่วมสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงินสำคัญ อาทิ การจัดการสถาบันการเงินที่ถูกทางการแทรกแซง การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการมิยะซะวะ รวมทั้งเจรจาต่อรองกับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อจัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในช่วงที่มีทุนสำรองระหว่างประเทศจำกัด
ในปี พ.ศ. 2543-2551 ร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ระหว่างปี พ.ศ. 2552-2556 ร่วมงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งเป็น รองผู้จัดการสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ทำแผนพัฒนาตลาดทุนของประเทศ พัฒนางานวิจัยด้านตลาดทุนเชิงลึก
ผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับการยอมรับในเวทีตลาดทุนโลกหลายเวที และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน
ดร.วิรไท ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 20 ต่อจากนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ในวันที่ 1 ตุลาคม 2558
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบชั้นประถมศึกษา และ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มัธยมศึกษาตอนปลาย จาก Deerfield Academy, Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา
จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ Lehigh University ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA), Universvity of Notre Dame ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังกลับจากสหรัฐอเมริกาเข้าทำงานที่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่ง นักวิเคราะห์ นักการตลาด วิศวกรวางแผนการผลิต และหัวหน้าแผนกวางแผนและการวิเคราะห์โลจิสติกส์ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆเรื่อยมา อาทิ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริการโครงการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และ ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยอุตสาหกรรม จำกัด
กระทั่งปี 2544 ได้รับแต่งตั้งให้กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งถือเป็น Trading arm ของ SCG โดยรับผิดชอบดูแลสำนักงานทั้งในไทยและในต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 35 สำนักงาน ทั้งใน Asia, Australia, Middle East and the U.S.A ตลอดจนสร้างเครือข่ายด้านการนำเข้า การส่งออก ให้กับสินค้าของ SCG รวมทั้งสินค้าอื่นๆ
กลินท์ ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) เมื่อปี 2557 ต่อมาในปี 2558 ก็ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ทั้งยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย ที่ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนในปี 2559 เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ (Public-Private Collaboration) (D3) ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ MICE
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ จบปริญญาตรี Swarthmore College, สหรัฐอเมริกา, ปริญญาโท Economics Yale University สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ Yale University สหรัฐอเมริกา
มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ เป็นกรรมการบริษัท และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิแอดไวเซอร์ จำกัด ,Visiting Professor of Economics สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา, ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งยังเป็นกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด, กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด
อนุกรรมการจัดการลงทุน (Investment Committee) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟื้นครม.เศรษฐกิจ นายกฯปรับกระบวนสู้ศึก
"สมคิด" เผยพร้อมทุกอย่างตั้งแต่ปีที่แล้ว โยนปรับครม.อยู่ที่นายกฯ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ก่อนหน้านี้เคยเป็นกรรมการในคณะกรรมการ ธปท. รวมถึงได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เมื่อต้นปี 2562 ล่าสุดได้สมัครเข้าท้าชิงเก้าอี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แทนนาย วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.ที่จะครบวาระในสิ้นเดือนกันยายน 2563 นี้ด้วย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ปัจจุบันอายุ 54 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี วิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโท การเงิน จาก INDIANA UNIVERSITY ประเทศสหรัฐอเมริกา
มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดทุนมากว่า 23 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ตั้งแต่ปี 2553-2557
ทั้งยังได้ร่วมคณะรัฐบาลไทย เดินทางเยือนต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยให้กับนักธุรกิจในหลายประเทศได้รับฟัง และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เพื่อช่วยเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและตลาดทุน เป็นต้น
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอายุ 53 ปี จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ (การเงิน) จากมหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันเป็นประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา กรรมการในคณะกรรมการบริหารโครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเป็น ประธาน สมาคมเครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย และได้รับตำแหน่งประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ปัจจุบันอายุ 52 ปี จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา,ปริญญาตรีด้าน คณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่ Williams College ประเทศสหรัฐอเมริกาและระดับปริญญาเอก จาก Massachusetts Institute of Technology ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค และเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
หลังจากสำเร็จการศึกษา ได้เริ่มทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีประสบการณ์ทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน ในงานด้านต่างๆ ทั้งส่วนของนโยบายการเงิน นโยบายสถาบันการเงิน
หลังจากนั้นถูกยืมตัวไปทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในตำแหน่งผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ดูแลด้านงานวิจัย และผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลฝ่ายพัฒนากลยุทธ์
ต่อมากลับมาทำงานที่ ธปท. หลังจากนั้นได้ตัดสินใจลาออกเพื่อหาประสบการณ์ในภาคเอกชน โดยทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กิจการธนาคารต่างประเทศ
เข้ามาทำงานทางด้านการเมืองนั้น เริ่มตั้งแต่ปี 2559 เข้ามารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โดยเข้ามาแก้ไขปัญหาและปฏิรูปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ
ต่อมาในปี 2560 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และลาออกมารับตำแหน่ง โฆษกพรรคพลังประชารัฐ
หลังจากนั้นรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรี(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และตำแหน่งล่าสุดในตอนนี้คือ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ปัจจุบันอายุ 61 ปี จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้าเนติบัณฑิตยไทย สาขากฏหมาย เนติบัณฑิตยสภา และปริญญาโทนิติศาสตร์ สาขากฏหมายเปรียบเทียบ TULANE UNIVERSITY ประเทศสหรัฐอเมริกา
เคยรับราชการเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดตาก ผู้พิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ทั้งยังช่วยทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิชาการ กระทรวงยุติธรรม ผู้พิพากษาประจำกระทรวงยุติธรรม ตำแหน่งผู้พิพากษาศาลแพ่ง
ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง อาทิ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นอกจากนี้ขณะดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราราษฎร คือ การสอบสวนการทุจริตค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอายุ 62 ปี จบปริญญาตรี วิทยาการจัดการบัณฑิต (วิทยาการจัดการ)มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต City University of Seattle สหรัฐอเมริกา และ ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ เป็นกรรมการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทีบีเอสพี จํากัด (มหาชน), เป็นกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และเป็น ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานร่วมภาคเอกชน สำนักงานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน
รวมถึงนั่งเป็น กรรมการสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจอนาคตและธรรมาภิบาลอินเตอร์เน็ต และเป็นประธานกรรมการสถาบันชุณหะวันเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน และเป็นประธานกรรมการ - บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอายุ 66 ปี เป็นผู้ก่อตั้งและบริหารบริษัท ตำนานป่า จำกัด ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคตะวันออก และตำนานป่ารีสอร์ท สถานที่แห่งการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบครบวงจร
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, ปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทและเอกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
หลังจบการศึกษาเป็นอาจารย์ในภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นเข้าทำงานที่บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติจำกัด และธนาคารกรุงเทพ จำกัด
ภายหลังลาออกจาก ธนาคารกรุงเทพ ดร.ไพรินทร์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกโพลีเอททีลิน จำกัด ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ปตท. และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ปตท. และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง และบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ
และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จนเกษียณจากการทำงาน
ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ-กรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี รวมถึงเป็น กรรมการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่กี่วันหลังจากนั้น นายไพรินทร์ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท เนื่องจากตนเองเพิ่งพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี จึงถือว่า มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมต่อการรักษาธรรมาภิบาลของบริษัท
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สาขา MBA จาก Southern Methodist University และปริญญาเอก สาขา Engineering Management จาก Southern Methodist University
เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ อาทิ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม, กรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank), เลขาธิการสำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมถึงเป็นประธานกรรมการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างปี 2559-2560 เป็นต้น
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ปัจจุบันอายุ 62 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ2) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และปริญญาโท กฎหมายเปรียบเทียบมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เริ่มงานที่สำนักกฎหมาย ธนาคารกสิกรไทย อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาต่างประเทศและวิเทศสัมพันธ์ ทำหน้าที่ Co-General Manager สาขาฮ่องกง ธนาคารกสิกรไทย,อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อฝ่ายอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ธนาคารกสิกรไทย
อดีตผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมงานสินเชื่อและหลักประกัน ธนาคารกสิกรไทย รวมถึงเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารกสิกรไทย
ในปี2544 นั่งเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และขึ้นเป็น รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เมื่อปี 2547 และเป็นรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ทำหน้าที่ผู้ประสานงานภูมิด้านบริหารความเสี่ยง ธนาคารกสิกรไทย ในปี 2553 เคยเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเมื่อปี 2557
และประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย กรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อปี 2559 ทั้งยังนั่งเป็น กรรมการในคณะกรรมการนโยบายเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เมื่อปี 2561