เมื่อเวลา 00.00 น. หรือเที่ยงคืน แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ Free Youth และ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ได้ทำกาารประกาศยุติการชุมนุม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
โดยระบุเหตุผลว่า พบความผิดปกติที่มีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงไม่ทำกิจกรรมปลุกรัฐบาลในเวลา 08.00 น.วันพรุ่งนี้แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขู่ยกระดับชุมนุม 'เยาวชนปลดแอก' จี้ยุบสภาใน 2 สัปดาห์
ม็อบเยาวชนปลดแอก ปักหลักค้างคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ภาพชุด “ม็อบเยาวชน" สวมเสื้อดำ จี้รัฐบาล “ยุบสภา”
ทั้งนี้แกนนำประกาศด้วยว่าอีก 2 สัปดาห์กลับมาทวงคำตอบ 3 ข้อ คือให้รัฐบาลยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
อย่างไรก็ตามก่อนการยุติการชุมนุม เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายภายในเต็นท์สื่อมวลชนบริเวณชุมนุมเยาวชนปลดแอก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังม็อบจับ จนท. แฝงตัว พุ่งเข้าใส่ ปะทะ กระทบกระทั่ง
18 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นบริเวณเต็นท์ผู้สื่อข่าวที่ตั้งอยู่กลางกลุ่มผู้ชุมนุม สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และเยาวชนในนามกลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ที่รวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แสดงออกแนวคิดทางการเมือง โดยมีกลุ่มคนจำนวนมากพยายามยื้อยุดฉุดกระชากกันภายในเต็นท์ มีการกระทบกระทั่งกันจนมีคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังจากคุมสถานการณ์กันได้พบมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งอยู่ที่พื้นโดยมีกลุ่มคนพยายามล้อมไว้เพื่อป้องกันความวุ่นวายดังกล่าว และมีชายอีกคนหนึ่งตัดผมสั้นเกรียนได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะมีเลือดไหล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูพาตัวออกไปจากจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ประมาณ 10 นาทีก่อนหน้านี้ มีคนสังเกตเห็นชายคนหนึ่งตัดผมสั้นเกรียน มีท่าทีเหมือนมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ จึงถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพาตัวมาพูดคุยบริเวณเต็นท์นักข่าว แต่จู่ๆ มีคนพุ่งเข้าใส่จนเกิดมีการกระทบกระทั่งกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาใกล้เคียงกันเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อยบริเวณซอยด้านข้างแมคโดนัลด์ จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า มีตำรวจนอกเครื่องแบบหรือตำรวจสันติบาลหลายนาย พยายามจะนำตัวชายและหญิงคู่หนึ่งที่มาร่วมชุมนุมไปสอบสวน โดยให้เหตุผลว่าทั้งสองรายมีพฤติกรรมหมิ่นเบื้องสูง แต่มีคนไปพบเสียก่อนและพยายามขัดขวางจนเกือบมีการกระทบกระทั่งกัน ในที่สุดตำรวจยอมถอยกลับไป