เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 63 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดเผยในที่ประชุมคณะอนุกรรมการแผนบูรณาการ 2 ว่า มี ส.ส.ที่เป็นอนุกรรมาธิการ เรียกรับผลประโยชน์ 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ ว่า มีรายงานลับส่งจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาถึงตนเองแล้ว ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อของบุคคลที่มีการอ้างถึง แต่มีเบอร์โทรศัพท์มาให้ ซึ่งไม่น่าจะยากในการติดตาม โดยให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด และมอบหมายให้คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณา ดังนั้นคณะกรรมาธิการชุดอื่นจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และขอให้คณะกรรมาธิการปฏิบัติกับผู้มาชี้แจงอย่างสุภาพเรียบร้อย อย่าทำอะไรที่ไม่เหมาะสม และอยากทำความเข้าใจว่าจะจบภายในวันสองวันไม่ได้ เพราะต้องมีการตรวจสอบ แล้วต้องดูว่าฝ่ายใดจะรับหน้าที่ดำเนินการต่อไป แต่ขอยืนยันให้มั่นใจว่า อะไรที่ผิดก็ต้องผิด หรือถูกก็ต้องถูก ไม่มีสิทธิ์ที่จะช่วยหรือปกปิดอะไรได้ แต่ขณะนี้ต้องให้กระบวนการดำเนินการไป ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา
ทั้งนี้ นายชวน กล่าวว่า หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะตรวจสอบเรื่องนี้ ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่มีสิทธิ์ส่งเรื่อง แต่มอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมให้ความร่วมมือหากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องการข้อมูลส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่มี นายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน ดำเนินการสอบเรื่องนี้ไปแล้ว นายชวน ย้ำว่า คณะกรรมาธิการที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นที่มีสิทธิ์สอบเรื่องนี้ ซึ่งมีคำสั่งออกโดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ว่ามอบหมายให้คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เป็นผู้ดำเนินการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรียกใต้โต๊ะ “อธิบดีกรมน้ำบาดาล” สะเทือน ครม.ประยุทธ์ 2/2 อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 หรือไม่
แฉวิธีรีดใต้โต๊ะ "ศักดา วิเชียรศิลป์" อธิบดีน้ำบาดาล
เปิดบทสนทนา “อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล” โดนเรียกใต้โต๊ะเงิน 5 ล้าน
ขณะที่ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า การชี้แจงงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในวันที่ 21 กรกฎาคม มีการซักถามเกี่ยวกับการขุดเจาะบ่อบาดาล ที่มีราคาต่างกว่าเอกชน ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม ได้ชี้แจงอีกรอบหนึ่ง หลังจากนั้น วันที่ 4 สิงหาคม ช่วง 19.10 น. มีคนโทรศัพท์มา อ้างว่า เป็นกรรมาธิการท่านหนึ่ง มีการพูดคุยกัน ของาน ขอเงินตามจำนวนที่เคยระบุ ต่อมา วันที่ 5 สิงหาคม ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ 5-6 คน ก็เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในวันนั้น ระหว่างการชี้แจง ตนก็เห็นว่า การชี้แจงในขณะนั้น ดูแล้วไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการต้องการ ตนก็ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นนอกห้อง เพราะไม่อยากฟัง เมื่อกลับมาก็ชี้แจงประเด็นเดิม คือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาล และอนุกรรมาธิการบางท่านเหมือนไม่เข้าใจ ทั้งที่ชี้แจงแล้วทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม ตนเห็นว่าการชี้แจงนั้นเปล่าประโยชน์ ตนเลยตัดสินใจพูดความจริงตามที่เป็นข่าว เพื่อให้คณะอนุกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว
จากนั้น นายสิระ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาขอเงินกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ให้กับผู้บังคับบัญชาไปแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการพยายามซักถามอีกว่า ทราบชื่อของบุคคลที่โทรศัพท์มาเรียกรับเงินแล้วใช่หรือไม่ และได้เปิดเผยชื่อดังกล่าวกับผู้บังคับบัญชาแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว เพราะเกรงว่า จะกระทบต่อตนเอง และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับได้
ต่อมา อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยอมรับกับคณะกรรมาธิการฯว่า ตนได้เข้าไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.แล้วเมื่อหลายวันที่ผ่านมา และขณะนี้ สตง.ก็ได้ติดต่อเพื่อให้ตนไปชี้แจงแล้ว พร้อมยืนยัน สิ่งที่พูดกลางห้องประชุมอนุกรรมาธิการฯเป็นความจริง หากตนพูดเท็จ ก็คงไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินนี้ ครอบครัวตนด้วย หากตนเปิดเผยเบอร์และเปิดเทปให้ฟัง ทุกคนก็รู้จักหมด