“อธิบดีน้ำบาดาล”แจงกมธ.ยันถูกส.ส.“ตบทรัพย์”จริง (มีคลิป)

19 ส.ค. 2563 | 08:01 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:45 น.

“อธิบดีกรมน้ำบาดาล”แจงกมธ. ยันส.ส.ตบทรัพย์แลกผ่านงบจริง มีคลิปเป็นหลักฐาน แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ หวั่นถูกฟ้องกลับ ขณะกมธ.สั่งประชุมลับเชิญสื่อออกจากห้อง

 

 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ของสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่ามีส.ส.เรียกขอเงิน เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ เป็นเรื่องจริง และมีหลักฐานยืนยัน  

 

วันนี้(19ส.ค.63) มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน โดยได้พิจารณากรณีกระแสข่าวอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ซึ่งเป็นคณะย่อยของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เรียกรับเงินจาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ

 

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมาธิการฯ ดังกล่าว ไม่ได้มาร่วมชี้แจงตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ มีเพียง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย นางสาวดวงมณี จั่นเพิ่ม ผู้อำนวยการกองแผนงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มาชี้แจง ทำให้นายสิระ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ พูดกลางห้องประชุมว่า คนที่เป็น ส.ส. และเป็นอนุกรรมาธิการ ไม่เดินทางมา ต้องรับผิดชอบและมีมาตรการที่มากกว่าคนทั่วไปแบบคูณสอง

 

ทั้งนี้ นายศักดา ชี้แจงว่า ในการชี้แจงงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการซักถามเกี่ยวกับการขุดเจาะบ่อบาดาล ที่มีราคาต่างกว่าเอกชน ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม ได้ชี้แจงอีกรอบหนึ่ง หลังจากนั้น วันที่ 4 สิงหาคม ช่วง 19.10 น. มีคนโทรศัพท์มา อ้างว่า เป็นกรรมาธิการท่านหนึ่ง มีการพูดคุยกัน ของาน ขอเงินตามจำนวนที่เคยระบุ

 

ต่อมา วันที่ 5 สิงหาคม ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ 5-6 คน เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในวันนั้นระหว่างการชี้แจง เห็นว่า การชี้แจงในขณะนั้นดูแล้วไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการต้องการ จึงได้ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นนอกห้อง เพราะไม่อยากฟัง เมื่อกลับมาก็ชี้แจงประเด็นเดิม คือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาล และอนุกรรมาธิการบางท่านเหมือนไม่เข้าใจ ทั้งที่ชี้แจงแล้วทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม ซึ่งเห็นว่าการชี้แจงนั้นเปล่าประโยชน์ เลยตัดสินใจพูดความจริงตามที่เป็นข่าว เพื่อให้คณะอนุกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว

 

จากนั้น นายสิระ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาขอเงินกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งนายศักดา ระบุว่า ได้ให้กับผู้บังคับบัญชาไปแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส.ส.เสือโหยต้องไม่ลอยนวล“กมธ.งบ-ปปช.-สภา”อย่าเฉย

เปิดคลิปลับ ส.ส.ตบทรัพย์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล

รู้จัก “อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล” ศักดา วิเชียรศิลป์ ขรก.สาวไส้นักการเมือง

เรียกสอบ รีดใต้โต๊ะ "อธิบดีกรมน้ำบาดาล"

อธิบดีน้ำบาดาลแฉ โดนส.ส.เรียกใต้โต๊ะ 5 ล้าน

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ พยายามซักถามอีกว่า ทราบชื่อของบุคคลที่โทรศัพท์มาเรียกรับเงินแล้วใช่หรือไม่ และได้เปิดเผยชื่อดังกล่าวกับผู้บังคับบัญชาแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อตนเอง และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับได้

 

ต่อมา อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยอมรับกับคณะกรรมาธิการฯ ว่า ได้เข้าไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.แล้ว เมื่อหลายวันที่ผ่านมา และขณะนี้ สตง.ได้ติดต่อ เพื่อให้ไปชี้แจงแล้ว

 

 

“สิ่งที่พูดกลางห้องประชุมอนุกรรมาธิการฯ เป็นความจริง หากพูดเท็จ ก็คงไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินนี้ รวมถึงครอบครัวด้วย หากเปิดเผยเบอร์และเปิดเทปให้ฟัง ทุกคนก็รู้จักหมด” นายศักดา ระบุ

 

 

 

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุด้วยว่า มีพยานหลักฐานมากกว่าที่หลายคนเป็นห่วง เพราะชีวิตเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา 2 ครั้ง ก็ผ่านอะไรมาพอสมควร เรื่องพยานหลักฐานมีพอสมควร แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเมืองไทยมีอะไรที่ไม่คาดคิดได้ ในเมื่อตนเองพูดไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และเชื่อว่าให้หน่วยงานตรวจสอบดีกว่า ยืนยัน ตนเองไม่ล้มมวย เพราะถ้าไปหกล้มกลางทาง ก็จะเดือดร้อน พร้อมยืนยันว่า “เกิดขึ้นจริง”

 

ต่อมา เวลาประมาณ 10.20 น. อนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ได้เข้ามารับฟังการพิจารณา พร้อมยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องตบทรัพย์ ยอมรับว่า รู้สึกร้อนตัว เพราะอยู่ในอนุกรรมาธิการ แต่ไม่รู้เรื่องนี้

 

ทั้งนี้อยากให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้ตัวไปเลย พร้อมเปิดเผยว่า นอกจากตนเองแล้ว ยังมี ส.ส.ที่เป็นอนุกรรมาธิการซักถามกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ประเด็นค่าน้ำมันมากที่สุด ได้แก่ นายศิริพงษ์ รัศมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ, นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย, และนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์  

 

จากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้สั่งประชุมลับ เนื่องจากกังวลว่า ผู้ที่มาชี้แจงจะได้รับผลกระทบจากการซักถามของคณะกรรมาธิการฯ จึงได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม