วันนี้(28 ส.ค.63) ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และ นายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 ในความผิด “เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงแก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครอื่น” คดีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545
ภายหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณา ศาลได้ออกรายงานกระบวนการพิจารณา คดีเสร็จการพิจารณา นัดฟังคำพิพากษาจำเลยทั้ง 2 ในวันนี้ (28 ส.ค.63)
โดยนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยทีมทนายความ และจำเลยทั้ง 2 คน พร้อมด้วยทีมทนายความ และคนสนิท รวมทั้งนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาให้กำลัง
หลังจากศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ศาลได้วิเคราะห์ว่า จากการสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้ว ศาลเชื่อในพยานหลักฐานของโจทก์และปราศจากข้อสงสัย เชื่อว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามฟ้อง และพยานฝ่ายจำเลยฟังไม่ขึ้น ศาลจึงตัดสินพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองในสถานเบาจาก 3 ปี ลดเหลือจำคุกคนละ 2 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนละ 10 ปี
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษานายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมขอขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรมในครั้งนี้ ผมพอใจในคำพิพากษามาก”
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรค ปชป. และ นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เซ็นรับทราบคำพิพากษา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ใส่กุญแจมือจำเลยทั้งสอง เดินทางจากห้องบัลลังก์ไปยังห้องควบคุมผู้ต้องขังด้านล่างของศาล เพื่อรอการประกันตัวในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป โดยจะใช้หลักทรัพย์เงินสดประกันตามที่ศาลพิจารณา หรืออาจจะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวต่อไป ซึ่งรอศาลอุทธรณ์พิจารณาประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตเลือกตั้งที่ยาวนานเกือบ 7 ปีนี้ นายพิชัย บุณยเกียรติ ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีโดยตรงได้ตัดสินใจยื่นฟ้องด้วยตัวเอง เนื่องจากคดีในกระบวนการปกตินั้น เสร็จสิ้นการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ที่ได้ลงโทษจำเลยที่ 1 คือ นายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท ด้วยการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว
ขณะที่ กกต.นครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช แต่พบว่ากระบวนการมีความล่าช้ากว่า 6 ปี คดียังค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้มีการสั่งคดี กระทั่งนายพิชัย ยื่นฟ้องโดยตรงจนศาลรับพิจารณาและนำไปสู่การพิพากษาจำคุกนายเทพไท และ นายมาโนชญ์ คนละ 2 ปี ดังกล่าว