วันที่ 29 สิงหาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 กล่าวถึงการนัดประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 ล้านบาท ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมนี้ว่า จริงๆเรื่องนี้ควรจบไปแล้ว เพราะตามระเบียบวาระเดิม เวลาสำหรับการพิจารณาของกมธ.งบประมาณฯคณะใหญ่ได้หมดลงแล้ว
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นขั้นตอนให้อนุกมธ.ทั้ง 8 คณะเข้ารายงานเพื่อจะได้ทราบยอดการปรับลดงบประมาณปี 2564 ในวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาทเท่าไหร่ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอคำแปรญัตติกลับมา แต่ผลก็อย่างที่ทราบ มีความพยายามยื้อจนปิดประชุมแล้วบอกว่า จะเชิญกองทัพเรือเข้าชี้แจงในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผวา “เรือดำน้ำ” ชน “เรือแป๊ะ” ทำ “ลุงตู่” พัง
วิกฤติเศรษฐกิจ เหตุปชป.“คว่ำเรือดำน้ำ”
งบ "ซื้อเรือดำน้ำ" 2.2 หมื่นล้าน ใช้ทำอะไรได้บ้าง เช็กที่นี่
เช็ก 10 ประเทศอาเซียนใครมีเรือดำน้ำบ้าง
แต่พอวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคมก็สั่งงดการประชุมวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม โดยให้เหตุผลเรื่องน้ำท่วมเพื่อให้ส.ส.กลับพื้นที่ แล้วให้นัดประชุมวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม โดยไม่มีการแจ้งวาระ ไม่มีความชัดเจนใดๆ แม้แต่การจะเชิญกองทัพเรือเข้าชี้แจง ทั้งๆที่ความเป็นจริงเวลาจะนัดหน่วยงานก็ต้องกำหนดวันให้ชัดเจน มิเช่นนั้นกองทัพเรือจะเตรียมการชี้แจงทันได้อย่างไร
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2564 ในวาระสองกับสามแล้ว ในวันที่ 16-18 กันยายนนี้ ซึ่งตามปฏิทินเดิมของกมธ. วันที่ 28 สิงหาคม ฝ่ายเลขานุการต้องร่างรายงานของกมธ.เพื่อเตรียมจัดพิมพ์แล้ว จากนั้นวันที่ 2 กันยายน ต้องพิจารณาข้องสังเกตของกมธ.แล้ว และวันที่ 3 กันยายนต้องตรวจรายงานของกมธ. ก่อนที่วันที่ 4 กันยายน จะแก้ไขรายงานครั้งสุดท้าย
แต่จนถึงวันนี้ กมธ.ยังไม่รู้ยอดเลยว่า จะปรับลดงบประมาณลงเท่าไหร่ รายงานก็ยังไม่ได้จัดพิมพ์ ข้อสังเกตก็ยังไม่ได้พิจารณาเลย ซึ่งการพิมพ์รายงานของกมธ.ต้องใช้เวลา และจะต้องถึงมือ ส.ส.อย่างน้อย 7 วัน เพื่ออ่านและศึกษาก่อนเข้าสภาฯในวาระสองและสาม จึงขอถามว่า แบบนี้จะทันหรือไม่ เพราะโดยส่วนตัวมั่นใจว่า ในการประชุมวันที่ 31 กันยายนนี้ กมธ.งบประมาณฯก็จะยังไม่สามารถปิดบัญชีได้ทั้งหมดดังนั้น ตนจึงเชื่อว่า รัฐบาลจะใช้เทคนิคตามรัฐธรรมนูญ ไม่ให้สภาฯพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 28 กันยายนนี้เพื่อประกาศใช้ร่างที่รัฐบาลเสนอเข้าสภาฯในวาระแรก
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าได้เตรียมแผนสำรองสำหรับเรื่องเรือดำน้ำไว้แล้ว นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เหตุที่การพิจารณางบประมาณฯช้าแบบนี้ก็เพราะเรือดำน้ำ 2 ลำนี้โดยมีความพยายามจะล็อบบี้กันให้ผ่านจะซื้อเรือดำน้ำให้ได้ โดยเฉพาะในซีกพรรคร่วมรัฐบาล แต่ที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มีมติเอกฉันท์ไม่เอาเรือดำน้ำ ซึ่งมีผลต่อการโหวต แม้ในที่ประชุมกมธ.งบประมาณฯคณะใหญ่ หากลบเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ออกจากเสียงของรัฐบาลไป 7 จาก 48 ก็จะเหลือ 41 เสียง
ขณะที่ฝ่ายค้านที่มีอยู่ 24 เสียง แม้จะได้เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์มาเพิ่มอีก 7 เสียง รวมเป็น 31 เสียงก็ยังสู้ไม่ได้ แต่ในสภาฯใหญ่ถ้าดันเรื่องนี้ต่อไป รัฐบาลแพ้ เพราะเมื่อลบเสียงส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 52 คน จากเสียงส.ส.รัฐบาล 276 เสียง จะเหลือเพียงแค่ 224 เสียงเท่านั้น โดยยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต่อสู้ ไม่เอาเรือดำน้ำ เพื่อเอาเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ปัญหาจากวิกฤตโควิดไปก่อน