"เศรษฐกิจไทย" ถูกจี้เป็นตัวประกัน กระตุก ม็อบคณะราษฎร ฟังเสียงคนเดือดร้อน

19 ต.ค. 2563 | 01:35 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2563 | 08:56 น.

"ทิพานัน" ชี้ เศรษฐกิจไทยเหมือนถูกจี้เป็นตัวประกัน กระตุกม็อบฟังเสียงสะท้อนคนเดือดร้อน เชื่อ สงบเร็วเศรษฐกิจเดินหน้า ทุกฝ่ายต้องขจัดเงื่อนไขซ้ำเติม เร่งใช้พื้นที่สภาแก้ไขปัญหามากกว่าพื้นที่ถนน

19 ตุลาคม 2563 นางสาวทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครสส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจความเห็นประชาชนซุปเปอร์โพลล์ ระบุประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 มองภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อนและหลัง ม็อบขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ความแตกแยกของคนในชาติ เสียหาย แย่หนักลงไปอีกว่า เป็นเสียงสะท้อนของประชาชนซึ่งทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือกลุ่มผู้ชุมนุม จะต้องนำมาพิจารณา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุม และประชาชนที่ติดตามสถานการณ์การชุมนุม ย่อมตระหนักดีว่า เศรษฐกิจไทยเพิ่งเผชิญกับปัญหา

 

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เรากำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูประเทศ เยียวยาเศรษฐกิจ การชุมนุมที่เกิดขึ้นในใจกลางเมือง ที่เป็นย่านเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมา การดำเนินชีวิต และการทำมาหากิน โดยจะเห็นได้จากภาพที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ถึงภาพห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในย่านราชประสงค์แทบจะเป็นห้างร้างหลังการชุมนุม ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า มีผลกระทบทางจิตวิทยาทำให้ประชาชนทั่วไปไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย และใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง การจ้างงาน 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ม็อบ 18 ตุลา คณะราษฎรภูเก็ตหวิดวุ่น "แตะสถาบัน" จุดชนวน

ประมวลภาพ # ม็อบ 18 ตุลา "คณะราษฎร"ดาวกระจาย 

ด่วน ม็อบ 14 ตุลา คณะราษฎร ยุติการชุมนุมแล้ว 

เกาะติดสถานการณ์ชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 19 ตุลาคม 2563 

 

ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุม หรือประชาชนที่จะตัดสินใจไปร่วมชุมนุมขอให้ฉุกคิดถึงประเด็นนี้ด้วย และรับฟังความเห็น เห็นใจถึงความเดือดร้อนและสิทธิในการทำมาหากินของผู้อื่นตรงจุดนี้เพิ่มเติมด้วย

 

"สถานการณ์ตอนนี้ เหมือนเศรษฐกิจไทยถูกจี้เป็นตัวประกัน ปัญหาปากท้องของคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เพิ่งจะมีความหวัง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการคนละครึ่ง เพิ่งคิกออฟออกไปแต่บรรยากาศบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้จ่ายภายในประเทศ และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างประเทศ" นางสาวทิพานัน กล่าว

 

 

นางสาวทิพานัน ยังกล่าวอีกว่า ผลโพลยังระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ มีความสามัคคีโดยเร็ว ซึ่งแน่นอนว่า ความสามัคคีปรองดอง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และหากประเทศกลับสู่ความสงบโดยเร็ว กระบวนการฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจก็เดินหน้าไปได้ อัตตราการจ้างงานใหม่กับผู้จบใหม่ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย ฉะนั้น ทุกฝ่ายต้องขจัดเงื่อนไขซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ควรมีมวลชนกดดันในพื้นที่ถนน ทั้งผิดกฏหมายและทำลายเศรษฐกิจ แต่ควรเร่งหันกลับไปใช้พื้นที่สภาผู้แทนราษฏรหาทางออกร่วมกัน