เปิดญัตติฝ่ายค้าน “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” เขย่าเก้าอี้ 10 รมต.

25 ม.ค. 2564 | 20:00 น.

รายงานพิเศษ : เปิดญัตติฝ่ายค้าน “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” เขย่าเก้าอี้ 10 รมต.

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ที่รัฐสภา 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำรายชื่อ 208 ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน เข้ายื่นญัตติ "อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล" ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การยื่นญัตติคราวนี้ยังมีรายชื่อ ส.ส.อีก 2 พรรค คือ พรรคเศรษฐกิจใหม่ กับพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมด้วย

 

สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งหมด 10 คน  โดยมีเนื้อหาของญัตติ ดังนี้ 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 

 

: มีพฤติการณ์บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่อง รวมถึงไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ จิตสำนึกและความรับผิดชอบ รวมถึงปล่อยให้เกิดการฉ้อฉล ละเลยให้เกิดการทุจริต เพื่อสร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้ตนเองและพวกในภาวะที่ประชาชนดำรงชีวิตลำบาก และการระบาดของไวรัสโควิด-19

 

“การบริหารที่ผิดพลาด มีการใช้อำนาจและผลประโยชน์ทำให้ทุจริตแพร่กระจายไม่ต่างจากโรคระบาด จนชื่อว่าเป็นยุคที่ทุจริตเฟื่องฟู มากที่สุด นอกจากนั้นยังปกปิดการกระทำผิดของตนเองและพวกพร้อง ไม่รอบคอบ ไม่ระมัดระวังการใช้งบประมาณ ไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ประโยชน์ สร้างความนิยมให้ตนเอง ไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติ สร้างความแตกแยก” ในญัตติของพรรคฝ่ายค้านระบุ

 

ทั้งนี้ในประเด็นที่คาดว่าจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ นั้นตามญัตติระบุว่า การปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน และสื่อมวลชน, บ่อนการพนันที่ละเลยให้มีกระจายทั่วไป, ทำลายและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยใช้สถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน รวมถึงแอบอ้างสถาบันเพื่อปิดบังความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 

 

: ระบุพฤติการณ์ว่าทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลใช้งบประมาณเพื่อความร่ำรวย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข 

 

: ระบุพฤติการณ์ว่า บริหารงานผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ ไม่ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกสองอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ และอำพรางการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรค เพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริต แสวงหาประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชน

นายจุรินทร์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ 

 

: ระบุพฤติการณ์ที่สำคัญ คือลอยตัวหนีปัญหา เลือกปฏิบัติ บริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ เลือกปฏิบัติ ไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล และพบการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถเข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง ในลักษณะแยกหน้าที่กันทำ ทุจริตในหน่วยงานที่กำกับ

 

“ละเลยให้มีการทุจริต ปกปิดข้อมูล ปกป้องการทุจริตและแสวงหาประโยชน์มิชอบ ใช้อำนาจไม่ซื่อสัตย์ ไม่เสียสละ ไม่เปิดเผย ไม่รอบคอบ ซึ่งการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และทำหน้าที่มิชอบทำให้หน่วยงานรัฐเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศอย่างร้ายแรง” ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจส่วนของนายจุรินทร์ ระบุ

 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 

 

: ระบุพฤติการณ์ว่า บริหารราชการแผ่นดินโดยไม่คำนึงความผาสุกของประชาชน ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ให้พวกพ้องและตนเอง ใช้กลไกทางกฎหมายวางแผนทุจริตอย่างเป็นระบบและแยบยล ละเลยการกำกับการทำงานให้โปร่งใส ทำให้พบการทุจริตอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ยังฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ 

 

: ระบุเนื้อหาในญัตติว่า ไม่ซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน ไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ ขาดวุฒิภาวะความเป็นผู้นำที่ดี ใช้อำนาจแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำ กดขี่ข่มเหงข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้บุคคลหลายรายที่เป็นพวกพ้องของตนเข้าสู่ตำแหน่งและแสวงหาประโยชน์โดยการทุจริต กระทำผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ เลือกปฏิบัติ และไม่ปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน 

 

: ระบุพฤติการณ์ในญัตติว่า ปล่อยให้การแสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้แรงงาน ไม่กำกับควบคุมผู้ใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบ จนทำให้มีแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการระบาดของโควิด-19 ขาดคุณธรรม และเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นพบพฤติการณ์ใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนและพวกพ้องสร้างความแตกแยกในสังคม ยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้เห็นต่าง ละเมิดนิติรัฐ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 

 

: ระบุพฤติการณ์ว่า บริหารราชการแผ่นดินที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด เพื่อให้ได้สิทธิดำเนินงานในกิจการของรัฐ โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยให้หน่วยงานที่กำกับ สมคบปิดบังการทุจริต ไม่ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย 

 

: ระบุเนื้อหาที่สั้นที่สุดในบรรดารมต.ที่ถูกยื่นอภิปราย เพียง 3 บรรทัด โดยมีสาระสำคัญถึงพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณธรรม ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติและประชาชน

 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ 

 

: ระบุเนื้อหาที่สำคัญ ว่า ปกปิดข้อมูลความจริงซึ่งควรแจ้งหรือยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าสู่ตำแหน่งโดยไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล กร่างเถื่อน และสร้างอิทธิพลให้กับบริวารและพวกพ้อง

 

“แต่งตั้งคู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยาเป็นข้าราชการการเมือง โดยไม่คำนึงถึงวุฒิภาวะและความเหมาะสม ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" เปิดซักฟอก 10 รมต. "3 ป." มาครบ

เปิดประเด็นซักฟอก“นายกฯ-อนุพงษ์-อนุทิน-นิพนธ์”

โหมโรง ซักฟอก‘บิ๊กตู่’

“นิพนธ์”ลั่นพร้อมแจงซักฟอกทุกเรื่อง แต่เชื่อไม่มีอะไร

ล็อกซักฟอก 4 วัน 16-19 โหวต 20 ก.พ. เป้าหลักถล่ม‘บิ๊กตู่’