วันนี้(18 ก.พ.64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ยื่นฟ้องดำเนินคดี นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฏร โดยมีการพาดพิง นายสุเทพ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกรณีสัญญาโฮปเวลล์ ระบุว่านายสุเทพกระทำการด้วยความประมาทเลิ่นเล่อ จนทำให้รัฐเสียหายและมีการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคอยให้การช่วยเหลือมาตลอด
นายสุเทพ กล่าวว่า การพูดอภิปรายในสภา ส.ส. หลายท่านอาจจะคิดว่าพูดอะไรก็ได้เพราะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย การพูดบิดเบือนการพูดว่าร้ายรัฐมนตรีหรือแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเลยมีให้เห็น แต่สิ่งที่พึงรู้คือการที่จะพูดพาดพิง บุคคลนอกสภากฎหมายก็มีการคุ้มครอง บุคคลที่ถูกพาดพิงถึงเช่นเดียวกัน การเดินทางมาในวันนี้ต้องการทำให้เป็นกรณีตัวอย่างว่าถ้าคนนอกสภาได้รับความเสียหายก็ต้องสามารถเอาผิดได้และที่สำคัญเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีเพราะที่ผ่านมาเคยถูกทำลักษณะนี้หลายครั้งต่อจากนี้ไปจะไม่ยอมและจะดำเนินคดีในทุกครั้งที่ถูกพาดพิงถึงในลักษณะเสียหาย
สำหรับกรณีสัญญาโฮปเวลล์ ที่ถูกพูดถึงข้อเท็จจริงคือการยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งตลอดเวลาบริษัทดังกล่าวไม่สามารถทำสัญญาได้แล้วเสร็จและมีการขอแก้ไขสัญญาหลายครั้งรัฐมนตรีคมนาคมฯในชุดรัฐบาลก่อนหน้าจึงมีการยื่นเรื่องให้มีการยกเลิกสัญญา เมื่อถึงในสมัยที่ได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีคมนาคม หนังสือสัญญาการยกเลิกสัญญาทั้งหมดได้ผ่านการพิสูจน์หลักฐานข้อเท็จจริงหมดแล้วเมื่อได้ข้อสรุปจึงทำหน้าที่ลงนามเพียงเท่านั้น
ส่วนที่มีการกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ไม่เป็นความจริง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีคอยตั้งกรรมการตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานมาเสมอ แม้จะผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว ฉะนั้นแล้วสิ่งที่นายสุทินพูดไม่เป็นความจริงทั้งหมด เพราะไม่มีการพูดถึงความเป็นไปก่อนหน้าและผลจากนั้นที่ตามมา หลังจากนี้จึงจะเดินหน้าพิสูจน์ ความถูกต้องในชั้นศาลเท่านั้นเพราะไม่อยากเห็นการโจมตีใส่ร้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในลักษณะเช่นนี้อีกแล้ว
เบื้องต้นศาลได้มีการ ลงทะเบียนรับฟ้องระบุจำเลยคือ นายสุทิน คลังแสง และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นคดีดำที่ 359 และนัดหมายมาพบอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งคำฟ้องวันนี้ได้บรรยายข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนค่าเสียหายดำเนินแพ่งทีหลัง
ด้านนายสุทิน กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ ยื่นฟ้องว่า เป็นธรรมดา การเป็นฝ่ายค้านเมื่อทำงานเราทำใจอยู่แล้วว่า จะต้องมีคนได้รับผลกระทบและต้องใช้สิทธิฟ้อง เมื่อนายสุเทพคิดว่า เสียหายก็เป็นสิทธิของเขา ส่วนตนจะต้องชี้แจงต่อศาลว่าหน้าที่คืออะไร ได้ทำไปตามกรอบกฎหมายหรือไม่ มีเจตนาที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในส่วนรวมหรือไม่ เรื่องนี้ไม่วิตก เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และถือเป็นครั้งแรกของตนที่ถูกฟ้องร้อง เพราะปกติพูดในสภาก็ไม่มีคนประท้วง