ที่ประชุม ก.ตร.วันนี้ (17 มีนาคม 2564 ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะนั่งหัวโต๊ะ นัดแต่งตั้งนายพลสีกากีวาระเดือน เม.ย. เป็นการแต่งตั้งผู้ที่ครบวาระเกษียณราชการ เพื่อปูนบำเหน็จเลื่อนสูงขึ้นก่อนเกษียณราชการ และตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) เทียบเท่า ผู้ช่วยผบ.ตร. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนด้านยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวที่ได้ขออนุมัติ ก.ตร.
มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะดัน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขึ้นนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา (สบ 9) เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. เฉพาะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ต้องจับตาว่าแท้จริงแล้วเปิดขึ้นเพื่อรองรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จริงหรือไม่ เพราะตามหลักเกณฑ์แล้วใช้กับคนอื่นก็ได้ อีกทั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็พูดเอาไว้ว่า ยังไม่ยืนยันว่าการเปิดตำแหน่งดังกล่าวเพื่อรองรับบิ๊กโจ๊กที่โอนกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ และขออย่าเพิ่งพูดเพราะยังเร็วเกินไป แต่ก็เป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมองว่าจำเป็นต้องมีตำแหน่งนี้ ก็คงจะต้องจับตาดูว่าตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.9) เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะทำให้บิ๊กโจ๊กกลับมาหวานเจี๊ยบอีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร.วาระแต่งตั้งเดือนเมษายนครั้งนี้ คาดว่าจะมีการเสนอโยกตำรวจระดับ ผบช.และผบก.ในพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ บช.ภ.2 ซึ่งมีปัญหาเรื่องการปล่อยปละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่อันเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ออกนอกพื้นที่ทั้งหมดด้วย
มาดูกันที่รายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. นั้นคาดจะเสนอชื่อ พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง จตช. พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.รวมทั้งคาดว่าจะเสนอแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ครบตามเกณฑ์ขึ้นเป็น ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.เทียบเท่า รองผบ.ตร. อาทิ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นต้น
เห็นนามสกุล “ชิดชอบ” แล้วคิดว่าสังคมคงต้องจับตามองอยู่ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ว่ากันว่าเส้นใหญ่ในสายตำรวจพอตัว กำลังจะเกษียณอายุในปีนี้ ซึ่งก็มีรายชื่อโผแต่งตั้งนายพลสีกากีในครั้งนี้ด้วย
ในช่วงที่มีประเด็นอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ในข้อหาเมาแล้วขับ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเพราะ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ที่ลงนามแทน ผบ.ตร. ในการไม่เห็นแย้ง สรุปเป็นอันคดียุติ
พล.ต.ท.เพิ่มพูน จบการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รับราชการตำรวจ ตั้งแต่ปี 2527 ที่สำนักงานเลขานุการ กรมตำรวจ ขณะที่พี่ชาย-เนวิน ชิดชอบ ได้เป็น สจ.บุรีรัมย์ ช่วงที่เนวิน บารมีเบ่งบานใน
• ยุครัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” พล.ต.ท.เพิ่มพูน เป็น ผบก.กองตรวจราชการ 2 จต. (จเรตำรวจ)
• ยุครัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็น ผบก.ตม.กทม. (ตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ)
• ยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัฒน์” ได้ถูกเด้งจาก ตม.ไปเป็นอำนวยการจเรตำรวจ
• ยุค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นจเรตำรวจ (สบ.8) ก่อนขยับมารับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ในฤดูกาลโยกย้าย 2562
ในช่วงหลัง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไชยจินดา เกษียณอายุราชการ คู่ชิงตำแหน่งผู้นำสีกากีคือ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก นรต.รุ่น 38 กับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นรต.รุ่น 36 ส่วนตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ที่ว่าง 2 ตำแหน่งฟาดฟันกัน 3 คน ระหว่าง พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย นรต.รุ่น 38 และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.38
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ก.ตร. คาดว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ จะรายงานสรุปเสนอในส่วนการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ร่วมโครงการเออร์ลีรีไทร์ ในวันที่ 17 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ให้นโยบายให้เป็นการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ไม่ให้มีการโยกสลับตำแหน่ง ทำการแต่งตั้งให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ที่ขอลาออกจากราชการตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ 21 หรือเออร์ลีรีไทร์ ระดับ ยศ พล.ต.ท.ประจำปี 2464 จำนวน 2 นาย ได้แก่ พล.ต.ท.ชัยพร พานิชอัตรา จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ท.อิทธิพล พิริยภิญโญ ผบช.ประจำสนง.ผบ.ตร. ส่วนระดับสัญญาบัตร ขอลาออกตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล จำนวน 849 ราย
สำหรับ พล.ต.ท.อิทธิพล หรือที่สื่อมวลชนเรียกันว่า “รองอิท” จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 36 มีเพื่อนร่วมรุ่นชื่อดัง อย่างเช่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น. ฯลฯ เมื่อปี 2560 ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติ 9 ต่อ 0 เสียง ให้ 1นายพลตำรวจมีความผิดฐานทุจริต กับกระทำผิดวินัยร้ายแรงให้ส่งอัยการดำเนินคดีอาญา กับอีก 3 นายพล กระทำโดยประมาททำให้เกิดความเสียหายถือว่าผิดวินัยร้ายแรงให้ ตร. ไล่ออก ในกรณีการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจเมื่อปี 2550