วันนี้ (1 เม.ย.64) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ระหว่าง นายวัชระ เพชรทอง โจทก์ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำเลย เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม
โดยโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และอ่านคำพิพากษาในวันนี้ว่า ที่ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วด่วนมีคำพิพากษายกฟ้องทุกข้อหาโดยไม่ไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไม่เห็นพ้องด้วยบางส่วน อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่าให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะในความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 157 แล้วมีคำพิพากษา หรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดีต่อไป
ศาลนัดพร้อมในวันที่ 5 พฤษภาคม 2564
นายวัชระ ได้กล่าวขอบคุณศาลที่มีความยุติธรรม ส่วนคดีที่เป็นโจทก์ฟ้องนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นจำเลยในประเด็นเดียวกัน ซึ่งเดิมศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่เลื่อนนัดไปอ่านคำพิพากษาในวันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564
คดีนี้เป็นกรณีที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขณะดำรงตำแหน่งอยู่ ไม่ส่งเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลอาญาตามที่โจทก์ร้องขอให้ศาลอาญามีหมายเรียกพยานเอกสาร ชวเลข ซึ่งนายสรศักดิ์ จำเลย ครอบครองอยู่
จนทำให้ศาลอาญามีคำสั่งประทับฟ้องโจทก์ในคดีที่ นายชัชวาล อภิบาลศรี เป็นโจทก์ฟ้องนายวัชระ เพชรทอง เป็นจำเลย โดยมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหายในคดีที่นายชัชวาล อภิบาลศรี ฟ้องโจทก์ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่โจทก์ดำเนินการตรวจสอบโครงการ ICT ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่โป่งพองจาก 3 พันล้านบาท เป็น 8 พันล้านบาท
นายวัชระ ยังขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความคุ้มครองข้าราชการฝ่ายพัสดุ 18 คน ที่คัดค้านไม่เห็นด้วยในการที่สภาฯ จะใช้การประมูลแบบวิธีพิเศษในงบ ICT 8 พันล้านบาทด้วย