เหรียญอีกด้าน “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” กับข้อกังขาของสังคม

เหลืออายุราชการอีก 3 ปี เท่านั้น ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะได้ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า แต่เส้นทางนี้ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดเพราะเขาถูกสั่งปลดออกจากราชการ กรณีถูกกล่าวหาว่าเข้าไปรื้อถอน เผา ทำลาย บ้านเรือนชาวกะเหรี่ยง 98 หลัง จากยุทธการตะนาวศรี เมื่อปี 2554 

เส้นทางชีวิตของเขาที่ผ่านมาเรียกได้ว่าต้องเข้าไปพัวพันกับคดีสำคัญต่างๆ มากมาย
 
5-9 พ.ค.2554 เข้ารื้อถอน เผา ทำลายบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย 

10 ก.ย. 2554 นายทัศน์กมล โอบอ้อมหรืออาจารย์ป๊อด คนร้ายประกบยิงเสียชีวิตคาที่ 

ปี 2555 พบซากช้างป่าแก่งกระจาน ถูกเผานั่งยางและชำแหละอวัยวะ

7 เม.ย. 2557 นายพอละจี หรือบิลลี่ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

 “ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่กระบวนการพิสูจน์หลักฐานเขามีขั้นตอนในการทำ ผมไม่สามารถที่จะไปทำอะไรใครได้เลยในกระบวนการยุติธรรม ผมขึ้นศาลมาทุกคดีไม่ใช่ว่าผมจะชนะคดีได้ง่าย ผมต้องต่อสู้ทุกศาลหรือกระบวนการของอัยการก็พิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ตามนั้น แต่ถามว่าวันนี้ในคดีการต่อสู้คนข้างนอกนายทุน นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผมจับมาหมดแล้ว ถามว่าคนพวกนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าผมอีก แต่ทำไมผมจับเขาดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมไม่ได้กลั่นแกล้ง ผมพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าผมพิสูจน์ได้เขาก็ถูกดำเนินคดี แต่ถ้าผมพิสูจน์ไม่ได้แค่กล่าวหาเขา เขารอด ที่ดินตรงนั้นก็ได้เป็นของเขาหรือใครที่เขาไม่ได้ล่าสัตว์ก็จบ ก็ยกประโยชน์ให้กับตัวเขาเอง เพราะฉะนั้น ผมเป็นผู้รักษากฎหมาย ผมเดินทางตามกฏหมาย ความยิ่งใหญ่ที่ผมมี ผมว่าผมยิ่งใหญ่ เพราะผมรักษาคุณธรรม จริยธรรมของข้าราชการ”

คดีพบซากช้างป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 2 ตัว ถูกเผานั่งยางและชำแหละอวัยวะหลายส่วนไปขาย ราวปี 2555 เป็นอีกหนึ่งคดีที่สังคมยังคลางแคลงใจ

แม้ในตอนนี้นายชัยวัฒน์จะไม่ได้ดูแลพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว แต่ก็ให้ข้อมูลว่า  ปัจจุบันยังมีขบวนการล่าช้างป่าแก่งกระจาน ซึ่งมีผู้มีอิทธิพลตามแนวชายแดนอยู่เบื้องหลัง  รับงานมาจากคนนอกพื้นที่ โดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลจะจัดหาออเดอร์ จัดส่งอาวุธและติดต่อประสานงาน ที่ผ่านมาการขยายผลจับกุมอย่างต่อเนื่อง และเหตุที่ชาวกะหร่างมารับจ้างล่าช้างเพราะมีความจำเป็นต้องใช้เงิน

“วันนี้ช้างป่าในแก่งกระจานเหลือไม่ถึง 200 ตัวเพราะช้างจริงๆป่าแก่งกระจานต้องมีถึง 500 ไปวันนี้เหลือไม่ถึง 200 เพราะยังมีการล่าช้างจะเสียชีวิตเองเป็นไปไม่ได้ใน ขณะเดียวกันที่ผมอยู่มีขบวนการล่าช้าง ตัดเอางา ตัดอวัยวะ ตัดลูกช้าง แล้วทำไมผมถึงไปจับตามปางช้าง มีตั๋วปลอม การฝังซากช้าง คดีช้างป่าของผม ของผมไม่รู้กี่ 10 คดี เพราะผมรู้ขบวนการเอาช้างป่าแก่งกระจานออก จริงๆแล้วจะอ้างว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นผมจะไปรู้เห็นเรื่องอะไร ถ้าผมรู้เห็น ผมก็รวยไปแล้วผมจะไปจับเขาทำไม ครั้งนั้นเป็นกระบวนการล่าช้างป่า”

นายชัยวัฒน์ได้รับการยกย่องว่าเป็น "วีรบุรุษแห่งแก่งกระจาน" จากภารกิจกู้ศพในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ทหารประสบอุบัติเหตุทะยอยตก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถึง 3 ลำซ้อนมีผู้เสียชีวิตรวม 17 ราย แต่สุดท้ายต้องถูกปลดออกจากราชการเพราะแก่งกระจานเช่นกัน

“วันนี้คนเพชรบุรีตื่นขึ้นมาหมดแล้ว รู้แล้วว่าตอนที่ผมต่อสู้ตัวคนเดียว เขาก็เหมือนว่ายังสู้ได้อยู่ วันนี้มีคนไปรุกป่าแก่งกระจานอีก เขาก็เริ่มรู้แล้วว่าป่าแก่งกระจานวันนี้มีน้ำ 700,000,000 ลูกบาศก์เมตร ที่รักษาระบบนิเวศอยู่ เขาทำกินเรื่องระบบทำนา ทำไร่ ทำสวนเมื่อก่อนทำนาได้ 2 ครั้ง บางปีได้ 3 ครั้ง แต่วันนี้บางปีทำได้แค่ครั้งเดียว แล้วก็งดต้องเอาน้ำไปชดเชยให้ระบบสาธารณูปโภคมากกว่า คนเพชรบุรีเริ่มรู้แล้วว่าป่ามีความสำคัญ แล้วผืนป่ามีความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะฉะนั้นการปกป้องคนเพชรก็ลุกขึ้นมา ผมโดนกระแสนี้ แต่ถามว่าในการถอดผมออกจากป่าแก่งกระจาน แต่กลับมีคนลุกขึ้นมา เห็นความสำคัญของป่ามันก็คุ้มต่อชีวิต และมีการเปิดโลกทัศน์เปิดมุมมองของคนทั่วประเทศว่าการปกป้องป่ามีความสำคัญ” 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สกู๊ปพิเศษ: “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” กับเหรียญอีกด้านของคดีเผาบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย
• สกู๊ปพิเศษ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” กับการทวงคืนศักดิ์ศรีผู้พิทักษ์ป่า
• พลิกปูม! “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” จาก"วีรบุรุษแก่งกระจาน" ถูกปลดพ้นราชการ