วันที่ 4 เมษายน 64 “บิ๊กแปะ” พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการลงสมัครผู้ว่า กทม. ว่า ตนจะลงสมัครในนามอิสระแน่นอน พร้อมยอมรับว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ติดต่อมาและบอกว่าหากไม่มีอะไรทำก็น่าจะลงสมัครผู้ว่า ฯ กทม. โดยมีแนวคิดจะให้คน กทม.มีชีวิตที่ดีขึ้น อาทิ ปัญหาการจราจร ปัญหาขยะ และปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเกี่ยวข้องกับรัฐบาล
อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าจะใช้ความรู้ความสามารถในฐานะที่เคยเป็นอดีตนานตำรวจเก่าที่ทราบปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยหากได้เป็นผู้ว่า ฯ กทม.ตนเองก็เปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่จะทำอย่างไรให้สมาชิกภายในครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี 4 เสาหลัก โดยมีพลตำรวจเอกจักรทิพย์เป็นเสาเอก เสาที่ 1 คือความจริงใจ เสาถัดไปคือประสบการณ์และความรู้ วิสัยทัศน์ที่จะนำมาใช้ภายในบ้าน เสาที่สามการรับฟังปัญหาของทุกคนทุกองค์กร ที่สำคัญเสาสุดท้ายคือความซื่อสัตย์ สุจริต โปรงใส ในการใช้จ่ายงบประมาณ
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า ตนได้ลงพื้นที่ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าช้ากว่าคนอื่น รวมทั้งยังมีข้อเสียเปรียบในเรื่องฐานทางการเมือง ทำให้ต้องทำการบ้านค่อนข้างหนัก แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่เคยอยู่ในพื้นที่ กทม. และรับรู้ปัญหาต่างๆ
สำหรับประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่าตนเป็นนอมินีของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ตั้งคำถามกลับว่า หากใช้คำถามนี้กับผู้สมัครคนอื่นพวกเขาจะตอบคน กทม.ว่าอย่างไร ส่วนตัวยังยืนยันเช่นเดิมว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระแน่นอน
“ถ้าจะถูกมองว่าเป็นนอมินีเพราะรู้จักกับพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร อยากบอกว่า คนที่อยู่พรรคเดียวกันคนละพวกก็เยอะ พวกเดียวกันคนละพรรคก็มี แต่สำหรับผมมีแต่พรรคพวก” พลตำรวจเอกจักรทิพย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดผลสำรวจ "คนกรุง" อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่ 2
"จักรทิพย์"ยังไม่ตอบ ลงชิงผู้ว่ากทม.
“บิ๊กแป๊ะ”เปิดเพจโซเชียล ปูทางลงผู้ว่าฯ กทม. ชูร่วมทุกข์ ร่วมสุข แก้ปัญหาฉับไว