เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี โดย ป.สามสี ได้โพสตร์ ระบุว่า
หลังจากที่มีกระแสข่าว ไลน์ส่วนตัวหลุดเผยตัวตน Agent “H” ผู้อยู่เบื้องหลัง ชลธิชา แจ้งเร็ว หนึ่งในแกนนำม็อบสามนิ้วในการ ทำภารกิจ โจมตีพระมหากษัตริย์ไทย
สิ่งข้าพเจ้าสนใจในกรณีนี้ คือ รูปหน้าซึ่งปรากฏเป็นคู่สนทนา โดยมีชื่อกำกับเพียง “H” นั้นเป็นใคร
แล้วหมายเลข 5,6,7,8 และ 9 ที่กล่าวถึงในแชดไลน์นั้นเป็นใครกันแน่? (และเบอโทรนั้นเป็นของใครกันแน่)
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรง่ายๆ เลยลองสืบค้นดู (จริงๆข้าพเจ้าก็เชื่อว่าหลายคนก็กำลังสนใจข้อมูลนี้เช่นกัน)
ล่าสุด ข้าพเจ้า และ ลูกเพจของเราหลายคนก็พบข้อมูลภาพที่ตรงกัน
คือ เบอร์โทรศัพท์ที่ ปรากฏในแชดไลน์ส่วนตัวหลุดนั้นเป็นของ นาย ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หนึ่งในแกนนำม็อบสามนิ้วที่หลบหนีไปยังต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว
ส่วน มิสเตอร์ “H”ในไลน์หลุดในเวลานี้
พบว่า มีใบหน้า เป็นของ นาย Henry Rector ตำแหน่ง Senior Diplomatic Advisor (ที่ปรึกษาทางการทูตอาวุโส)
มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ด้าน democratic Transition ,Southeast Asia, Engaging Fragile and post-conflictStates. (อ่านดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่า เป็นที่ปรึกษาทางการทูตในดินแดนที่เปราะบาง และหลังเกิดความขัดแย้งในช่วงการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย โดยมีขอบเขตการความรับผิดชอบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
อ้างอิง https://apcss.org/about/leadership/rector/
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาไม่ใช่ ”CIA” หรือ “NSA” และไม่ใช่คนของ ”NED” หรือ “USAID” แต่อย่างใด แต่เป็น “DKI APCSS” ที่มีออฟฟิศ อยู่ที่ 2058 ถนน มาลูเฮีย ใกล้ภูเขา ไดม่อนเฮด, โฮโนลูลู , ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
ข้าพเจ้า ติดตามดู “DKI APCSS” ว่ามันย่อมาจากอะไรก็พบว่า มันคือ Daniel K Inouye , Asia- Pacific-Center-for-Security- Studies หรือ ชื่อเก่าคือ Asia- Pacific-Center-for-Security- Studies (APCSS.) โดยมีการก่อตั้งขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2538 ถือเป็นองค์กรที่ใหม่มาก เมื่อเทียบ กับองค์กรความมั่นคงอื่นๆ ของสหรัฐฯ เช่น Central Intelligence Agency(CIA) ก่อตั้งเมื่อ ปีพ.ศ.2490และ National Security Agency(NSA) ก็ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2495. ส่วนบริษัท JUSMAGTHAI บริษัทซ่อนรูปของกองทัพสหรัฐในไทย นั้นก็กำเนิดในช่วงยุค14 ตุลาคม พ.ศ. 2516
และเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรรัฐ-เอกชน อย่าง National endowment for democracy (NED) หรือ ที่มีฉายาว่า CIA ภาคพลเรือนนั้นก็ก่อตั้งเมื่อ ปีพ.ศ.2526 เป็นต้น ดังนั้น “DKI APCSS”จึงเป็นหน่วยงานที่ ใหม่ถอดด้ามเลยทีเดียวนะครับ
สิ่งที่น่าสนใจคือ “DKI APCSS” เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐฯ โดยตรงในการรักษาความมั่นคงในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี มอตโต้ในการรักษาความปลอดภัยว่า. Educate - Connect – Empower (ให้ความรู้ เชื่อมต่อ เสริมพลัง)
โดย มีพันธกิจขั้นต้นระบุเอาไว้ว่า
“Daniel K. Inouye Asia-Pacific Center for Security Studies ( DKI APCSS )is an institution that provides a forum where military and civilian leaders from the Indo-Pacific gather to address regional and global security.”
DKI APCSS ศูนย์การศึกษาความปลอดภัยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันที่เป็นเวทีให้ผู้นำทหารและพลเรือนจากอินโดแปซิฟิกรวมตัวกันเพื่อรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ทั้งนี้ DKI APCSS ยังเป็นเวทีร่วมพิจารณาความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้งเป็นตัวกลางให้เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอำนาจตัดสินใจ และผู้กำหนดนโยบายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือประเด็นเร่งด่วน และเข้าใจความท้าทายที่มีผลต่อสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
อ่านมาเช่นนี้ ก็ดูเหมือนองค์กรหรือสถาบันสนับสนุนข้อมูลการศึกษาและวิจัยทางการทหารทั่วไป
หลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพของภารกิจที่ชัดเจนของ DKI APCSS ว่ามันคืออะไรกันแน่ งั้นเรามาดู ประวัติของ Henry Rector
Henry Rector เข้าร่วม Daniel K. Inouye Asia-Pacific Center for Security Studies (DKI APCSS) ในเดือนกันยายน 2563 ในตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสทางการทูต (SDA)
หลังจากดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกการเมืองที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 ปี , ประเทศไทย
Henry Rector เป็นสมาชิกของกระทรวงการต่างประเทศอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศโดยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (เทียบเท่าทหารยศพันเอกพิเศษ) ก่อนหน้าที่จะได้รับมอบหมายในกรุงเทพฯเขาดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาทางการเมืองที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในแบกแดด จากประสบการณ์ 31 ปีทั้งในต่างประเทศและในวอชิงตัน
เขามีความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยการเมือง - การทหารและการมีส่วนร่วมทางการทูตในรัฐที่เปราะบางและหลังความขัดแย้ง Mr. Rector เป็นผู้รับรางวัล Superior Honor and Meritorious Honor Awards ของกระทรวงการต่างประเทศ
Henry Rector เคยดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 9 ปีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเมืองในประเทศไทยระหว่างปี 2560-2563
เขาได้ส่งเสริมยุทธศาสตร์อินโด - แปซิฟิกและช่วยวางแผนการเยือนของเลขาธิการแห่งรัฐทิลเลอร์สันและปอมเปโอ นอกจากนี้เขายังจัดการสังเกตการณ์การเลือกตั้งระดับชาติของไทยในปี 2562
ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557 ตั้งแต่ปี 2550-2552
Henry Rector เคย ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าคณะเผยแผ่ในติมอร์ – เลสเต
ซึ่งเขาได้เข้าร่วมโครงการสอนภาษาอังกฤษแห่งแรกของกระทรวงการต่างประเทศในประเทศนั้น และอำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมของผู้นำติมอร์ในการสัมมนาของ APCSS เกี่ยวกับการร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2546-2550
และยังเป็นเจ้าหน้าที่ทางการเมืองของสถานทูตสหรัฐฯ ในจาการ์ตา ซึ่งเขามีส่วนร่วมในนโยบายต่างประเทศของชาวอินโดนีเซีย โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในองค์กรพหุภาคีและองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเชีย
เฮนรียังรายงานเกี่ยวกับความไม่สงบแบ่งแยกดินแดนในปาปัวตะวันตกโดยเดินทางไปจังหวัด 15 ครั้งในรอบสี่ปี
Mr. Rector ยังได้รับมอบหมายงานหลายอย่างเกี่ยวกับการพูดภาษาเยอรมันในยุโรป เขาได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯในเบอร์ลินในปี 2539-2541 และเป็นนักวิเคราะห์ของเยอรมนีออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ในสำนักข่าวกรองและการวิจัยตั้งแต่ปี 2543-2546 ในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทหารทางการเมืองบนโต๊ะทำงานของเยอรมันในปี 2536-2539
และยังได้ทำงานเกี่ยวกับสถานะของกองกำลังและประเด็นการประจำการตลอดจนการขยายและการประสานงานของนาโต้ในการสู้รบในคาบสมุทรบอลข่าน
การศึกษา
ปริญญาตรี ได้รับการยกย่องในภาษาฝรั่งเศสและเยอรมันจาก Rhodes College และปริญญาโทสาขา European Studies จาก Indiana University ซึ่งทำวิทยานิพนธ์เรื่อง German-U.S. ความสัมพันธ์ในช่วงวิกฤตลิเบียเมื่อปี 2528 ได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยมแห่งปีของภาควิชา ในระหว่างการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทเขายังศึกษาที่มหาวิทยาลัย Tuebingen และ Kiel ในเยอรมนี ในปี 2010 เขาได้รับปริญญาโทด้านความมั่นคงแห่งชาติและการศึกษายุทธศาสตร์จาก US Naval War College ในนิวพอร์ต RI วิทยานิพนธ์ของเขาในหลักสูตรการปฏิบัติการทางทหารร่วมของโครงการคือการศึกษา Operation Astute ซึ่งเป็นการนำทางทหารของออสเตรเลียในติมอร์ - เลสเตใน การตอบสนองต่อความไม่สงบในปี 2549 เขาพูดภาษาบาฮาซาอินโดนีเซียเยอรมันและฝรั่งเศส บ้านเกิดของเขาคือลิตเติลร็อคอาร์คันซอ
หลังจากที่อ่านประวัติกันมายาวยืดก็พอจะเห็นว่าคนๆ คนนี้เป็นคนเช่นไร
หลังจากนี้เราคงต้องติดตามข่าวเพิ่มเติมละครับว่า สรุปแล้วเขาจะใช่คนเดียวกับที่ เคลื่อนไหวในไลน์แชตหลุดในเวลานี้หรือไม่? และ องค์กร DKI APCSS ที่มีศูนย์กลางในฮาวายจะ มาเกี่ยวข้องอะไรในเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ประเทศไทย