“ศรีสุวรรณ”ร้องสอบ“ผอ.กกต.ปทุมธานี”เมินสอบซื้อเสียงเลือกตั้งเทศบาล 

26 เม.ย. 2564 | 06:50 น.

“ศรีสุวรรณ”ร้อง กกต.กลางสอบผอ.กกต.ปทุมธานี  ไม่ทำตามก.ม.หลังชาวบ้านร้องมีการซื้อเสียงเทศบาล พร้อมเอาผิดจริยธรรมเหตุกล่าวให้ร้ายต่อหน้าชาวบ้านที่ไปร้องเรียน 

วันนี้ (26 เม.ย.64) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.สอบสวนหรือเอาผิดทางวินัยและจริยธรรม กับผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี  กรณีไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากการเลือกตั้งเทศบาล เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา  ปรากฏหลายพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีมีการร้องเรียนว่า มีการซื้อเสียง และมีประชาชนไปร้องเรียนพร้อมหลักฐานว่ามีหัวคะแนนไปซื้อเสียง แต่ไม่มีความคืบหน้า แต่กลับกล่าวร้ายต่อผู้มาร้องเรียน  

โดยกฎหมายของ กกต.และกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นกำหนดไว้ชัดเจน ในมาตรา 106 วรรคสาม  กำหนดว่าหาก ผอ.กกต.ได้รับการร้องเรียนแล้วจะต้องนำความไปแจ้งให้ กกต.กลางดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริง  หรือสั่งให้มีการไต่สวนโดยพลัน  แต่ ผอ.กกต.ปทุมธานีกลับเพิกเฉย ไม่ดำเนินการที่กฎหมายกำหนด  จึงเข้าข่ายละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และอาจเข้าข่ายความผิดทางวินัยของข้าราชการ ของ กกต.อีกด้วย  

จึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่อาจนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรมได้  จึงร้องให้ กกต.ดำเนินการเอาผิดต่อ ผอ.กกต.ปทุมธานี และขอให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในจังหวัดปทุมธานี  โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลาดสวาย  อำเภอลำลูกกา มีการทุจริตซื้อเสียงจริงหรือไม่   ส่วนการที่ ผอ.กกต.ปทุมธานีกล่าวร้ายป้ายสีคนอื่นต่อหน้าประชาชนที่ไปร้องทุกข์ อาจเข้าข่ายความผิดประมวลจริยธรรมของ กกต.ด้วย  จึงขอให้ กกต.กลางได้พิจารณาและลงโทษ
 

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า เมื่อชาวบ้านพบการทุจริตซื้อเสียง โดยมีหัวคะแนนนำเงินจำนวน 500 บาท มาจ่ายเพื่อให้ไปเลือกผู้สมัครบางราย  จึงไปแจ้งความร้องทุกข์มีการลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สน.คูคต  และไปร้องให้ ผอ.กกต.ปทุมธานี ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่  ซึ่งการไปร้องให้ตรวจสอบอาจล่าช้าไปเล็กน้อย เพราะชาวบ้านให้เหตุผลว่าต้องมาขอคำปรึกษาจากตัวเองก่อน ในฐานะเป็นนักกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าว การซื้อเสียงชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ปรากฏว่า ผอ.กกต.ปทุมธานี กลับพูดกับชาวบ้านที่ไปร้องเรียนการทุจริต ว่า  “อ๋อ คุณศรีสุวรรณ จรรยา น่ะเหรอ เค้ารับจ้างร้องเรียนอยู่แล้วนี่”  ซึ่งการกล่าวพาดพิงถึงตัวเองก็เข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรมของ กกต.อีกด้วย 


 “คำว่ารับจ้างร้องเรียน  ผมคิดว่าเป็นการดูหมิ่น  ดูแคลนผมโดยชัดเจน ต่อหน้าชาวบ้านที่ไปร้องเรียน  โดยปกติแล้วผมจะนำความที่ชาวบ้านร้องเรียนทั่วประเทศ ไม่ว่าเรื่องใดที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม  มาร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำคดีไปฟ้องต่อศาล  ซึ่งเรื่องร้องเรียนเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 100 เรื่องอยู่แล้ว โดยเป็นเรื่องปกติวิสัยของผม  ทุกครั้งที่ไปฟ้องคดีไม่เคยเรียกรับเงินจากผู้รองเรียน หรือจากชาวบ้านทั้งสิ้น  และการที่มากล่าวร้ายกับผมเป็นผู้รับจ้างร้องเรียนนี่ ผมคิดว่าเป็นการหมิ่นประมาทผม  ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 แต่ผมไม่เอาผิดเรื่องความอาญา  แต่จะเอาผิดวินัยและประมวลจริยธรรมของ กกต.เพื่อดำเนินการเอาผิด ผอ.กกต.ปทุมธานี” นายศรีสุวรรณ กล่าว