วันนี้ (2 มิ.ย.64) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวขอบคุณส.ส. ที่เสนอแนะ และจะนำไปพิจารณา ทั้งนี้่งบประมาณที่ปรับลดในชั้นงบประมาณ จะนำไปจัดสรรให้โครงการที่ได้รับงบน้อย และอาจต้องทำโครงการใหม่ อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้เตรียมแผนงาน หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย
รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดต่อการแก้ไขและบริหารวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในรายละเอียดได้เตรียมความพร้อม รวมถึงมีการลงทุน มีการจ่ายค่ามัดจำ เหตุผลที่รัฐบาลไทยไม่เข้าโครงการโคแวค เพราะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์รับวัคซีนฟรี หากไทยเข้าร่วมจะจ่ายค่าวัคซีนแพง ไม่สามารถเลือกยี่ห้อวัคซีนได้ รวมถึงต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ส่วนวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์นั้นอยู่ระหว่างประสานกับคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และส่งได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ประมาณ 20 ล้านโดส
“วันหน้าวัคซีนผลิตได้มาก โรคน้อยลง โอกาสเอกชนเจรจาตรงและหาได้จริง เป็นสิ่งที่คาดหวังไว้ ส่วนขณะนี้ที่เอกชนยังไม่สามารถเจรจาตรงกับผู้ผลิตได้ เพราะรายละเอียด แต่หากเอกชนรายใดที่เจรจาได้ ก็ขอให้เงียบไว้ ไม่เช่นนั้นจะตัดยอดกันไปกันมา ส่วนการเจรจาของเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น( อปท.) ผมไม่ขัดข้อง เพราะฉีดให้คนไทย ที่สำคัญเขาขายให้หรือไม่ หรือตัดยอดของรัฐบาลหรือไม่ ผมไม่ได้หน้าอะไรจากตรงนี้”
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงด้วยว่า ที่เสนอให้ปรับลดงบประมาณ 20% ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นงบเพื่อสวัสดิการ ดูแลเกษตรกร ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเหมือนรายจ่ายประจำของรัฐบาลแล้ว
“การทำงานวันนี้ ผมไม่ใช่เผด็จการ เพราะทำงานกับนักการเมือง ส.ส.รัฐมนตรี เห็นไหมผมเปลี่ยนไปเยอะ แต่ยังเสียงดังเหมือนเดิม เพราะอัดอั้น ผมขอโทษด้วย ผมไม่มีเจตนากับใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้ขอให้ทุกคนเดินไปตามแผนงาน เชื่อว่าไปได้ หากไม่ดีต้องทำต่อ ทำให้ดีที่สุด หลายคนบอกไม่ดีที่สุด ผมไม่รู้ว่าต้องทำมากกว่านี้อย่างไร ทั้งวันทั้งคืน ผมไม่มีความสุข ตราบใดที่คนไทยไม่มีความสุข ผมไม่มีความสุข ผมไม่ใช่คนใจดำ ผมไม่ต้องการผลประโยชน์ ขอบคุณที่ฟังผม” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ