มติ ก.ต. 9 ต่อ 6 ไม่พักราชการ "ปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์" อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตภาค 1

วันนี้( 22 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลฎีกา สนามหลวง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการ(ก.ต.) ครั้งที่ 14/2564 โดยมีการพิจารณา เเละมติที่น่าสนใจดังนี้ 

ที่ประชุมมีมติตามที่มีการเสนอให้พักราชการ นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1  ที่ถูกย้ายช่วยราชการในตำเเหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ระหว่างสอบสวน ซึ่งเป็นไปตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 74 เมื่อข้าราชการตุลาการผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือถูกฟ้องคดีอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือ ความผิดลหุโทษ ถ้า ก.ต.เห็นว่าจะให้อยู่ในหน้าที่ราชการระหว่างสอบสวน หรือ พิจารณา จะเป็นการเสียหายแก่ราชการ ประธานศาลฎีกาจะสั่งให้พักราชการก็ได้ 

ก่อนหน้านี้ ก.ต.เคยมีมติว่า กรณีที่เป็นวินัยร้ายเเรงให้ส่งให้ ก.ต.พิจารณาในเรื่องการสั่งพักราชการทุกกรณี 

ในการลงมติในครั้งนี้ มีการยื่นหนังสือร้องให้ นางเมทินี ประธานศาลฎีกา ไม่มีสิทธิลงมติ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสีย กรณีที่เคยถูก นายปรเมษฐ์ ยื่นฟ้อง เเต่ที่ประชุม ก.ต.มีมติเห็นว่าไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงอนุญาตให้ นางเมทินี ลงมติได้

ผลการลงคะแนนปรากฏว่า ที่ประชุม ก.ต.มีมติ 9 ต่อ 6 ไม่เห็นชอบพักราชการ นายปรเมษฐ์  

ทั้งนี้ จากการสอบถามสำนักงานศาลยุติธรรม ได้รับคำชี้แจงว่า ตามที่มีข่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) มีมติ 9 ต่อ 6 ไม่เห็นชอบพักราชการ นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 ที่ถูกย้ายช่วยราชการในตำเเหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ระหว่างสอบสวนนั้น ถือเป็น มติ ก.ต.ที่ไม่เปิดเผย เนื่อจากเป็นมติที่ว่า ความลับที่เกี่ยวพันกับเรื่องของวินัยของผู้พิพากษา ซึ่งอาจจะกระทบต่อเจ้าตัว สำนักโฆษกฯ จึงไม่อาจชี้แจงรายละเอียดได้

สำหรับ นายปรเมษฐ์ ถูกร้องเรียนกล่าวหาว่าเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาคดีหมายเลขดำ ที่ อท.84/2563 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. , น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  จึงถูกย้ายไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ภาค 1

ก่อนหน้านี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้มีคำสั่งลับที่ 333/2564 ลงวันที่ 25 มี.ค. 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 

ขณะที่ นายปรเมษฐ์ ก็ได้ยื่นฟ้อง 3 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งอยู่ในชั้นตรวจคำฟ้อง 
 

ภายหลังทราบผลมติ ก.ต.ดังกล่าว นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค1 กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณ ก.ต.เสียงข้างมาก ที่ยังพิจารณาให้ความยุติธรรมและเป็นธรรม การเป็นเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าว ย่อมต้องมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงจากบุคคล หรือ องค์กรอื่นใด และต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างเสมอภาคกัน  และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวน ตามประกาศ คณะกรรมการฯ อย่างเสมอภาคไม่เร่งรัด รีบด่วน และด่วนสรุปความเห็น เช่นเดียวกับผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมรายอื่นที่ถูกกล่าวหา 

คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้น และ คณะกรรมการสอบสวนวินัยชุดอื่น ยังใช้เวลาสอบสวนหลายเดือน เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีระยะเวลา ในการรวบรวมพยานหลักฐาน นำสืบแก้ในผลร้าย  อีกทั้งจะต้องทราบว่า ผู้ใดเป็นผู้ร้องเรียนกล่าวหาในประเด็นและข้อเท็จจริงใด แต่ที่ร้องเรียนกล่าวหานั้น ตนเองยังไม่ได้ทราบเลย จึงมองว่าทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในส่วนนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• “ปรเมษฐ์”อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตฯลุยฟ้อง 3 ตุลาการ ความผิด ม.157
• คดีแรกประวัติศาสตร์ ผู้พิพากษาระดับอธิบดี ฟ้อง‘กรรมการป.ป.ช.’
• “อธิบดีผู้พิพากษา”ฟ้อง“สุภา”กรรมการป.ป.ช.ฐานหมิ่นศาล