วันที่ 21 ก.ค. 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์การบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของนายกฯ พร้อมจี้ให้ยอมรับความจริงว่าล้มเหลว เละยิ่งกว่าโจ้กนั้นโดยนายเสกสกล ระบุว่า จะต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งทั่วโลกก็ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกันหรือหนักกว่าไทยด้วยซ้ำ เพราะตั้งแต่นายกฯเข้ามาบริหารประเทศได้แก้ไขปัญหาหลายอย่างรวมถึงปัญหาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำเอาไว้ รวมถึงมีผลงานชัดเจนในการพัฒนาประเทศหลายๆด้าน ซึ่งนายเลิศศักดิ์ หรือพรรคเพื่อไทยก็เห็นอยู่แล้ว โครงการต่างๆเกิดขึ้นมากมายพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องจนนับไม่ถ้วน ชี้แจงแล้วชี้แจงอีกคนในพรรคเพื่อไทยก็แกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอดเสียเอง แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ส่วนการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชน ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ทั้งนี้ตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นนั้นก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วนายกฯ ทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่ จัดหาโรงพยาบาลสนาม หากไม่เพียงพอให้แยกกักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว มีอาหารส่งให้วันละ 3 มื้อ พร้อมแพทย์ติดตามอาการ ผ่านวิดีโอคอล มีการลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในหลายจุด และ อย.ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนชุดตรวจโควิด-19 แบบแอนติเจน เทสต์ คิท (Antigen test kit: ATK) สำหรับประชาชนแล้ว
ส่วนการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชน ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ทั้งนี้ตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นนั้นก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วนายกฯ ทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่ จัดหาโรงพยาบาลสนาม หากไม่เพียงพอให้แยกกักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว มีอาหารส่งให้วันละ 3 มื้อ พร้อมแพทย์ติดตามอาการ ผ่านวิดีโอคอล มีการลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในหลายจุด และ อย.ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนชุดตรวจโควิด-19 แบบแอนติเจน เทสต์ คิท (Antigen test kit: ATK) สำหรับประชาชนแล้ว
ขณะเดียวกันเพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง นายกฯ ทีมแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาร่วมกันแล้วว่าการล็อกดาวน์นั้นจะทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลายลงได้
พร้อมกับหามาตรการต่างๆมาเยียวยาให้กับประชาชน โดยที่ประชุม ครม.ได้ เห็นชอบมาตรการเยียวยาให้กับนายจ้าง ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ลูกจ้างแรงงาน มาตรา 33 ที่ตกงาน ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 แล้ว ซึ่งแม้จะล็อกดาวน์หรือไม่ล็อกดาวน์นั้น รัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆออกมาช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว