วันที่ 30 ก.ค.2564 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการประสานกับประธานสภาประชาชนแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขอวัคซีนซิโนฟาร์ม ว่า เป็นการคุยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีประเด็นในเรื่องอื่นๆ ด้วยแต่ที่เสนอในนามของฝ่ายไทย มี 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องนักเรียนไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงต่างประเทศทำอยู่
2.เรื่องสายการบิน ซึ่งเป็นเรื่องชองฝ่ายบริหาร แต่เมื่อมีโอกาส จึงได้ขอให้ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีนติดตามเรื่องนี้ให้ด้วย และ 3.เรื่องของวัคซีน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ในยามยากลำบากจีนได้แสดงความเป็นมิตรแท้ ในยามที่เรามีปัญหาได้จัดส่งวัคซีนมาช่วยเราจำนวนมาก
แต่ในขณะนี้สถานการณ์ในประเทศเรายังมีความรุนแรงอยู่ จึงได้ขอความกรุณาประธานสภาฯ จีน ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ขอให้ช่วยสนับสนุนให้จีนส่งวัคซีนรุ่นใหม่มาช่วยประเทศไทยเพิ่มขึ้น เผื่อว่าประธานสภาฯ จีนจะได้มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารของรัฐบาลจีน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้คุยกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วแต่ยังไม่ได้รับรายงานกลับมาว่าทางจีนจะบริจาควัคซีนให้อีกหรือไม่ เพราะเป็นการฝากให้ประธานสภาฯ จีนช่วยสนับสนุนเท่านั้น ซึ่งเราก็ได้บอกเขาไปตรงๆ ว่าขณะนี้ประเทศเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการวัคซีนสูง เพราะวัคซีนเราไม่พอ
เมื่อถามว่า วัคซีนที่ขอไปคือซิโนฟาร์มใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่ได้ระบุว่าเป็นวัคซีนชนิดใด เพียงแต่บอกว่าอยากได้วัคซีนรุ่นใหม่ที่จะมาช่วยประเทศไทย และที่ผ่านมาจีนก็ช่วยประเทศไทยมามากแล้ว ช่วยมากกว่าทุกประเทศ แต่เราก็ยังไม่พอ ซึ่งก็เหมือนกับกรณีขอวัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐก็เป็นเรื่องที่เพื่อนที่สหรัฐส่งข่าวมา และเรื่องนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศบอกว่าทำมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จเป็นรูปธรรม
นอกจากนั้นยังมีหมอที่สหัรฐอเมริกาได้โทรศัพท์มาหาตนว่าวัคซีนของอเมริกาที่เหลืออยู่มากเป็นการกระจายไปยังรัฐต่างๆ จึงไม่ใช่ของ่ายแต่สิ่งที่เขาช่วยมาส่วนหนึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลก็ทำมาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นมีทางไหนที่จะหาทางช่วยกันได้เราก็ต้องช่วยกัน เพราะในต่างประเทศเขาไม่รู้ว่าเรามีปัญหาในเรื่องความต้องการวัคซีน ต่อไปหากวัคซีนมีมากขึ้นความหมายก็จะน้อยลง แต่ตอนนี้วัคซีนมีความหมายมาก อย่างไรก็ตามวัคซีนไฟเซอร์อีก 1 ล้านโดสที่จะส่งตามมานั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นส่วนที่ได้ประสานไปแต่เป็นเรื่องที่เขาได้ติดต่อกันอยู่แล้ว แต่พวกเราติดต่อในวงนอก
“เมื่อเราพยายามช่วยกันให้เกิดความเร่งด่วนหลังจากนี้วัคซีนออกมามากความต้องการก็จะน้อยลง แต่ตอนนี้พี่น้องประชาชนเขาต้องการวัคซีนจึงเป็นช่วงสำคัญที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเป็นภาระของทุกฝ่าย ถึงแม้จะเป็นภาระหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล แต่ในฐานะนิติบัญญัติมีทางไหนที่เราจะช่วยเสริมได้เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รับการดูแลทั่วถึงมากขึ้น อย่างเมื่อวานผมได้ฉีดวัคซีนเข็มที่สองก็ได้มีการพูดคุยกับแพทย์และผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งก็ให้พยายามช่วยรณรงค์ว่าอย่าไปคิดว่าเมื่อวัคซีนไม่มีแล้วจะต้องติดเชื้อ แต่ทุกคนต้องป้องกันให้มาก”
ประธานสภาฯ กล่าวว่า ตนจึงย้ำเน้นในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะในหน่วยงานอย่าให้ติดโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งในสภา เพียงเดือนกรกฎาคมมีผู้ติดเชื้อ 16 คน แต่ทั้ง 16 คนทางเลขาธิการดูอย่างเข้มข้นไม่ให้เข้ามาในสภา ส่วนใหญ่ไม่ได้ติดจากสภาแต่ติดจากญาติพี่น้อง รายล่าสุดเป็นนิติกร เมื่อดูไทม์ไลน์แล้วสันนิษฐานว่าน่าจะติดจากตอนไปตลาด ดังนั้นที่สภาถึงอย่างไรก็ต้องทำให้เข้มที่สุดเพราะต้องมีการประชุมสภา เราหนีไม่พ้นเราจะต้องพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 จึงต้องพยายามให้เกิดความปลอดภัยที่สุด เท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ในขณะที่ข้างนอกมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ข้างในสภาก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดโปร่งอยู่ฝ่ายเดียว จึงเป็นเรื่องที่ไม่แแปลกที่จะมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพียงแต่เมื่อติดแล้วขอให้รู้ตัวและสะกัดคนๆ นั้นไว้ ไม่ให้สัมผัสกับคนอื่น