วันนี้(1 ส.ค.64) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ดิฉันขอส่งเสียงแทนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อีกครั้งค่ะ” ระบุว่า
วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาค 1.5 ล้านโดส จากอเมริกา ต้องให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ด่านหน้าทุกคน โดยต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ตามหลัก autonomy ประชาชนมีสิทธิ์เลือกวิธีการรักษามีสิทธิ์เลือกยาที่ใช้
เพราะฉะนั้นต้องคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดไม่ว่าจะฉีด 1 เข็ม 2 เข็มหรือยังไม่ฉีดก็ตาม เพราะบุคลากรเหล่านี้ คือ”นักรบ”ของเรา แพทย์ 1 คนรักษาชีวิตคนได้เป็นร้อยๆ คน เครื่องมือไม่พอ เราจัดหาเพิ่มได้ แต่บุคลากรเราไม่สามารถหาเพิ่มได้
นอกเหนือจากนั้น ควรฉีดให้บุคลากรด่านหน้าอีกกลุ่ม คืออาสาสมัครภาคประชาชน ทั้ง อสม. อสส. และอาสาสมัครของมูลนิธิต่างๆ และกรรมการชุมชน ที่ทำงานช่วยผู้ป่วยโควิดในพื้นที่
และนอกจากผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงแล้ว ควรต้องเร่งนำมาฉีดให้แก่เด็ก 12 - 17 ปี และสตรีตั้งครรภ์ เพราะขณะนี้คนกลุ่มนี้กำลังติดเชื้อสูงขึ้น
สุดท้ายการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมานี้ ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส
โดยมีข้อสังเกตการจัดวัคซีนครั้งนี้ มีการ “กันวัคซีน” ไว้บางส่วนโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดแจ้ง อันอาจจะมีการนำไปฉีดให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมาย ควรเปิด “Open data” เพื่อให้ตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส อย่าให้ประชาชนต้องตั้งคำถามว่า #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร อีกเลยค่ะ