วันนี้(21 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยายกาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระ 2 เป็นวันที่ 4ว่า ได้พิจารณาต่อในมาตรา 25 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงสาธารสุข จำนวน 37,543 ล้านบาท
นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายมีเนื้อความพาดพิงถึงการแก้ปัญหาโควิด-19 โดยเฉพาะการกระจายวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรม โดยเปรียบเทียบระหว่าง จ.อุบลราชธานี ที่ได้รับวัคซีน จำนวน 3 แสนคน จากประชากรทั้งสิ้น 1.8 ล้านคน กับจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีประชากร 1.5 ล้านคน ได้รับวัคซีน 6 แสนคน ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ระบาด หรือ เมืองท่องเที่ยว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะใกล้ชิดรัฐมนตรี
ทำให้ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ประท้วง และชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าวว่า เป็นเพราะการบริหารจัดการที่ดี
ขณะที่่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า การประท้วงดังกล่าวเป็นการชี้แจง เพราะการประท้วงถูกพาดพิงให้เสียหาย แต่เมื่อบุคคลไม่เสียหาย ควรให้กรรมาธิการชี้แจง ไม่ใช่หน้าที่ส.ส.ชี้แจง ขอให้ประธานควบคุมการประชุมด้วย
ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง จากพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า ตนอนุญาตให้นายสนอง เพราะเป็นส.ส.บุรีรัมย์ เมื่อพาดพิงถึงจังหวัดบุรีรัมย์ จึงอนุญาตให้ทำได้ และตนได้ฟังการอภิปรายว่า พาดพิงถึงรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดจังหวัดบุรีรัมย์ ดังนั้น นายสนอง เป็นส.ส.เจ้าของพื้นที่จึงมีสิทธิ์ชี้แจงพาดพิงได้
ทำให้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า “หากครั้งหน้ามีคนพาดพิงถึงจังหวัดเชียงใหม่ หรือ ประเทศไทย ผมจะลุกนะครับในฐานะเป็นคนไทย”
ก่อนที่ นายศุภชัย จะวินิจฉัยย้ำว่า ได้รับฟังและพบการพาดพิงถึงรัฐมนตรีกับจังหวัดบุรีรัมย์ และส.ส.พื้นที่ จึงชี้แจงได้ หากรอบหน้ามีคนอภิปรายพาดพิงถึงจังหวัดใด ส.ส.พื้นที่ย่อมมีสิทธิ์ประท้วงได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุประท้วงยังเกิดต่อเนื่อง หลัง นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายขอตัดงบประมาณกระทรวงสาธารณุข 1% หรือ 360 ล้านบาท เนื่องจากจัดงบไม่ตอบโจทย์ภาวะไม่ปกติ ยังเอางบไปลงทุนในสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วน รมว.สาธารณสุข ก็หลอกลวงชาวบ้านจะมีวัคซีนเต็มแขนประชาชน ล่าสุดลูกสาวโทรมาบอกว่า เพิ่งไปฉีดวัคซีนซิโนแวคมา จึงบอกไปว่า ไปฉีดทำไมมันคือ น้ำเกลือ
ทำให้ นายศุภชัย ขอให้นายนิยม ถอนคำพูดซิโนแวค เป็นน้ำเกลือ เข้าข่ายใส่ร้าย
ขณะที่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ย้ายขั้วไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ก็รีบประท้วงให้ นายนิยม ถอนคำพูดซิโนแวค คือน้ำเกลือ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
แต่ นายนิยม ยืนยันเป็นแค่การเปรียบเทียบให้เห็นในสิ่งที่ประชาชนพูดกัน ไม่ได้ใส่ร้าย แต่ นายศุภชัย ยืนยันให้ถอนคำพูด เพราะพูดออก อากาศไปทั่วประเทศ สร้างความเข้าใจผิดได้ ในที่สุด นายนิยม ถอนคำพูด ก่อนอภิปรายต่อจนจบ
เมื่อ นายนิยม พูดจบ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วง ตำหนิการทำหน้าที่ประธานของ นายศุภชัย วางตัวไม่เป็นกลาง ขอให้เปลี่ยนตัวประธานประชุมในมาตรานี้ ให้ประธานคนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน ไว้พ้นมาตรานี้ไปก่อน ค่อยขึ้นมาทำหน้าที่
ทำให้ นายศุภชัย สวนกลับว่า อย่าเอาอคติมาจับผิด ยืนยันทำหน้าที่เป็นกลาง แต่การมาบอกซิโนแวคคือ น้ำเกลือ ใครเป็นประธาน ก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ ก่อนจะดำเนินการประชุมต่อไปตามปกติ