วันที่ 10 ก.ย.64 เวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาปัตย์ ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเริ่มการประชุมรัฐสภาว่า พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เรามีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแม้จะมีสถานการณ์ทางการเมืองที่ผันผวนอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักในการปกครองประเทศ การที่รัฐสภาได้ผ่านความเห็นชอบรับหลักการและผ่านความเห็นชอบในวาระสองมาแล้ว
วันนี้หวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบในการลงมติวาระสาม ด้วยเหตุผล3ประการคือ 1.ในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 โดยกมธ.ได้พยายามปลดล็อคข้อกังวลต่างๆในเรื่องที่คิดว่าอาจจะเป็นการร่างที่ไม่เป็นไปตามหลักการ หรือตามข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญไปทั้งหมดได้มีการปลดล็อคในส่วนของระบบการใช้บัตรเลือกตั้งสองใบแต่ไม่ได้มีการกีดกันว่าพรรคเล็กจะต้องส่งครบ 100 เขต หรือพรรคเล็กจะต้องได้คะแนนขั้นต่ำร้อย ละ5 เหมือนในรัฐธรรมนูญปี40 ครั้งนี้ไม่มีข้อจำกัดดังกล่าวนี้ ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าจะเป็นเหตุผลทำให้ส.ส.ได้เห็นถึงความพยายามของกมธ. 2.การแก้ไขให้เป็นระบบบัตรสองใบก็เพื่อตอบโจทย์ในการพัฒนาให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง แน่นอนที่สุดว่าเพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คือกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายการเลือกตั้ง ที่จะต้องดำเนินการให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์และยุติธรรมควบคู่กันไป 3.การลงมติในวันนี้จะเป็นเครื่องยืนยันสถียรภาพของรัฐบาลและยืนยันเรื่องความตั้งใจในการที่จะให้รัฐสภาได้แก้ไขปัญหาต่อไป
“ผมยังมั่นใจว่าทุกฝ่าย บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ฉะนั้นต้องช่วยกันในการขับเคลื่อนให้มีการเห็นชอบลงมติในวาระสาม แต่ถ้าไม่ให้ความเห็นชอบก็จะเป็นปัญหาต่อองคาพยพอื่นทางการเมือง และอาจจะเกิดปัญหาการตัดสินใจของเพื่อนสมาชิกในเรื่องการเมืองของแต่ละพรรค รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้จากการประสานเบื้องต้นยังมีความมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และแกนนำของส.ว. เห็นว่าควรที่จะได้รับการสนับสนุนเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ดำเนินการต่อไป ถ้าการแก้ขรัฐธรรมนูญผ่านจะนำเข้าสู่กระบวนการโปรดเกล้าฯ และพรรคการเมืองต่างๆที่เกี่ยวข้องจะได้เสนอกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ”
เมื่อถามว่า มั่นใจเสียงส.ว.ที่สนับสนุนหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า คุยกับแกนนำส.ว.หลายคนที่เป็นกมธ.ด้วยกันมายืนยันว่าท่านเห็นชอบมาทั้งสองวาระ และวาระนี้ยังไม่มีเหตุผลหรือสัญญาณอื่นใดจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงคงเป็นเหตุการณ์ความผันผวนทางการเมืองเพียงอย่างเดียวแต่ตอนเชื่อว่าการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาคงไม่ใช่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องกฏหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วเวลาลงมติไม่ไว้วางใจพรรคฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ไม่ไว้วางใจ แต่เวลาลงแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคฝ่ายค้านบางพรรคที่เขาเห็นด้วย ก็ลงมติให้ความเห็นชอบเช่นพรรคเพื่อไทย เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่ามันต้องแยกส่วนกัน การทำหน้าที่การทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะการทำหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ของแต่ละพรรคว่าให้ความสนใจทางการเมืองอย่างไร
เมื่อถามว่าหากร่างนี้ไม่ผ่านจะพิจารณาถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ขอให้ถึงเวลานั้นก่อนเพราะขณะนี้ยังไม่อยากสมมติแต่ตอนเชื่อว่าทุกฝ่ายยังให้ความร่วมมือที่จะเห็นชอบผ่านร่างฉบับนี้
เมื่อถามว่าแต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยแสดงจุดยืนงดออกเสียงมาโดยตลอด นายชินวรณ์ กล่าวว่าเขาได้เสนอความคิดเห็นนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคและเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคจะต้องไปตอบคำถามเองเช่นเดียวกันกับใครที่จะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากร่างฉบับนี้ผ่านก็เป็นภาระความรับผิดชอบของกลุ่มหรือพรรคนั้น ที่ต้องการจะตีความที่แท้จริง หรือต้องการตีรวน หรือมีเหตุผลอื่นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของพรรคการเมืองตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิสูจน์กันต่อไป