วันที่ 15 ก.ย.2564 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ทั้งหมด 8 เรื่อง เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 มี 6 ประเด็น เช่น เรื่องการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข ยังตอบคำถามไม่ชัดเจน , เรื่องที่ 2. เป็นเรื่อง การระบายยางพารา และสัมปทานดาวเทียม โดยหลังวันที่ 29 ก.ย. ฝ่ายค้านจะนัดลงชื่อ ยื่นต่อ ป.ป.ช. อีกครั้ง
ทั้ง 8 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับ 4 รัฐมนตรี ประกอบด้วย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น
ฝ่านค้าน ย้ำว่า ทั้งหมดเป็นกระบวนการตรวจสอบของสภาฯตามปกติ เพราะการทำหน้าที่ของฝ่ายในสภาฯแม้มติจะไม่สามารถเอาผิดตามที่กล่าวหาได้ แต่กระบวนการของ ป.ป.ช. จะทำหน้าที่ตัดสินตามข้อเท็จจริง หากมีความผิดรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาจะถูกดำเนินคดีในที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ยื่นต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร 1 เรื่อง คือ กรณี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหานายกรัฐมนตรีการสภาฯแจงเงินให้ ส.ส. แลกกับการลงมติไว้วางใจ โดยนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย อธิบายเหตุผลที่ต้องยื่นต่อกรรมาธิการฯของสภาฯก่อน เนื่องจากการให้ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนยื่น ป.ป.ช.ตามขั้นตอนตามปกติเมื่อพบว่ามีหลักฐานหนักแน่นเพียงพอ