วันที่ 22 ก.ย.2564 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงมีกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสภา ผูกโยงความเคลื่อนไหวการลงพื้นที่ของพรรคว่า พรรคไม่เคยคุยกันเรื่องยุบสภา การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆของพรรคไม่ได้มีนัยยะสำคัญเชื่อมโยงถึงกระแสข่าวที่คิดกันว่าจะมีการยุบสภาเพราะเป็นการลงพื้นที่ตามปกติทั่วไปซึ่งบุคลากรของพรรคทุกคนได้ทำเป็นประจำอยู่แล้ว
ยิ่งในช่วงปิดสมัยประชุมสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็จะใช้โอกาสนี้ในการลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ได้ผ่านความเห็นชอบในวาระที่สามของรัฐสภาแล้วขั้นตอนต่อจากนี้มีการกำหนดไว้ชัดเจน ท้ายที่สุดเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ก็มีขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีการร่างกฏหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่ากระบวนการต่างๆเหล่านี้โอกาสที่จะมีการยุบสภายากมาก
นายราเมศ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องดำเนินการคือเร่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้งและสาขาให้มีจำนวนครบถ้วนในทุกเขต หากร่างแก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้ แน่นอนว่าจำนวนเขตเลือกตั้งที่เพิ่มมาถึง 400 เขต ก็จะต้องมีการเตรียมการในการตั้งตัวแทนพรรคในแต่ละเขตที่เพิ่มขึ้นอีก 50 เขต ให้ครบถ้วนเพื่อให้สมาชิกพรรคได้มีส่วนร่วมตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันการจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตจะต้องมีตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้งหรือสาขา
ซึ่งมีหลายพรรคที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น หากไม่ได้จัดตั้งตัวแทนหรือสาขาในเขตเลือกตั้งก็ส่งผู้สมัครไม่ได้ หลายพรรคจัดตั้งได้เป็นจำนวนที่น้อยอยู่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า หากยุบสภาในช่วงนี้หลายพรรคอาจจะเกิดปัญหาได้ ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความกังวลเพราะ 350 เขตเดิมมีตัวแทนพรรคและสาขาเกือบครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งจากการเตรียมความพร้อมตลอดระยะเวลาในฐานะสถาบันทางการเมืองยุบสภาเมื่อใดพรรคพร้อมทุกเวลา