วันที่ 5 ตุลาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่วิพากษ์วิจารณ์การสื่อสารของนายกฯกับประชาชนประเด็นประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิดแล้ว เป็นการหลอกตัวเอง โดยนายเสกสกล กล่าวว่า ที่นายกฯได้พูดไปนั้นเป็นการเปรียบเทียบกับเมื่อช่วงระบาดหนักเดือนเมษายนที่ผ่านมา กับการระบาดในขณะนี้ที่ผู้ติดเชื้อทยอยลดลงแล้ว และมีผู้หายป่วยต่อวันจำนวนมาก อัตราครองเตียงในโรงพยาบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด โรงพยาบาลสนามหลายแห่งสามารถปิดตัวลงได้เนื่องจากไม่มีผู้ป่วยใหม่ การหาเตียงให้ผู้ป่วยในทุกระดับอาการจึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป โรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่ต้องปิดรับผู้ป่วยโรคอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถือว่าขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลง และประเทศก็พ้นวิกฤตกว่าในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงทำงานแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะหมดไป
นายเสกสกลยังระบุว่าการที่หมอชลน่านบอกว่าการสื่อสารของนายกฯต้องการให้ประชาชนผ่อนคลายอาจจะเกิดผลร้าย หรือนายกฯต้องการที่จะเลี้ยงโควิดเพื่อเอื้อในการใช้งบประมาณหรือไม่นั้น ใช้สมองส่วนใดคิดจึงสามารถคิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ หรือหมอชลน่านเกิดหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว เพราะคิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นถึงคิดเรื่องแบบนี้ได้ ซึ่งตลอดการบริหารงาน นายกฯให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณที่ต้องโปร่งใส ไม่มีการทุจริต ส่วนที่บอกว่าการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมาพบว่าเกิดการทุจริตมหาศาลนั้น ก็ขอให้นำหลักฐานมาเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย อย่ากล่าวหาเลื่อนลอยไร้หลักฐานไม่เช่นนั้นหมอชลน่าน อาจจะโดนดำเนินคดีเสียเองเพราะการกช่าวใส่ความที่เป็นเท็จ