วันที่ 18 ต.ค. 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการปล่อยคลิป นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุยกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีบทสนทนาว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เหมาะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ เตรียมยื่นยุบพรรค ในข้อกล่าวหาว่าเป็นการครอบงำพรรคจะสามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง ส่วนนิยามคำว่าครอบงำพรรคเป็นเช่นไรนั้น ก็มีหลักเกณฑ์เนื่องจากเคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว ซึ่งการครอบงำคือการเข้าไปใช้อิทธิพล โดยที่ตนเองนั้นไม่มีส่วนได้เสีย ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือเป็นกรรมการบริหารพรรค เข้าไปชี้นำให้คนอื่นปฏิบัติตาม แต่เรื่องนี้จะเป็นการครอบงำหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่มองว่าการพูดคุยกันเฉยๆ พูดกันธรรมดา ไม่ได้เป็นการครอบงำ แต่เป็นเพียงการโยนหินถามทางหยั่งเสียง เท่านั้น
ส่วนเมื่อถามว่าลักษณะเช่นนี้เป็นการครอบงำพรรคหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า การครอบงำต้องถามว่าใครครอบ ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่า คุณว่าใครครอบ ส่วนที่เขาจะกล่าวหานั้น ตนไม่รู้ ส่วนที่นายสิระ จะยื่นกล่าวหานายทักษิณ เป็นผู้ครอบงำพรรค นั้น นายทักษิณก็ปฏิเสธมาแล้วไม่ใช่หรือ ว่าคุณหญิงพูดไม่เป็น หาเสียงไม่เก่ง แล้วครอบงำอย่างไร
หากใช้คลิปการพบปะพูดคุยผ่านโซเชียลมาเป็นหลักฐานได้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนเข้าใจว่าเป็นการสนทนาปราศรัย พูดจาธรรมดาในสื่อสาธารณะ ใครก็ฟังได้ แต่ไม่น่าจะถึงขั้นนำมาเป็นหลักฐานในการยื่นยุบพรรค ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่เช่นนั้นก็คงพูดอะไรกันไม่ได้ บางอย่างเป็นการออกความเห็น บางอย่างเป็นการถามมาแล้วตอบไป เมื่อไหร่ที่เขาเข้าไปเริ่มดำเนินการในพรรคตรงนั้นแหละใช่ ตรงที่เขาคุยกันอยู่ไม่ใช่พรรค แต่เป็นพื้นที่สาธารณะ
ทั้งนี้ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า มีประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียนกับกมธ. จากกรณีคลิปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วิดีโอคอลพูดคุยถึงการส่งแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย โดยกมธ. จะบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่ระเบียบวาระ เพื่อขอมติจากกมธ. เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปมาชี้แจง โดย กกต.ต้องตอบว่า นี่คือการครอบงำพรรคการเมืองจากบุคคลภายนอกหรือไม่
โดยตามมาตรา 92 (4) ยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรค ในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เพราะมีโทษถึงยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร เป็นเวลา 10 ปีด้วย ทั้งนี้ ยังครอบคลุมถึงคนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค เพราะถูกเว้นวรรคทางการเมือง ถูกตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีพ
ขณะที่นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ‘เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand’ ยอมรับว่า เป็นผู้เสนอต่อนายทักษิณ ชินวัตร ถึงความเป็นไปได้ในการให้คุณหญิงพจมาน มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจริง โดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้น ที่บ้านของ เฮียเพ้ง นายพงศักดิ์ รัตนพงไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นเจ้าภาพฉลองวันเกิดให้ โดยมีนายทักษิณ โทรศัพท์เข้ามาอวยพรวันเกิดให้กับตน และทักทายพรรคพวกที่อยู่ในงาน
“วันนั้นผมถามท่านที่เล่นทีจริงว่า ใครจะมาเป็นว่าที่นายกฯพรรคเพื่อไทย ท่านเลยตอนกับผมว่า ทราบว่า พรรคมีการกำหนดตัวบุคคลไว้แล้ว แต่ท่านได้สอบถามผมกลับว่า เกรียงเห็นว่า ใครเหมาะสม ผมก็เลยเสนอคนเดิม ที่เคยมาเสนอก่อนที่ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นนายกฯ แต่ท่านก็ถามผมว่าเป็นใคร ท่านจำไม่ได้แบบทีเล่นทีจริง ผมก็เลยตอบท่านว่า คนที่จะมาเป็นว่าที่นายกฯของพรรค จะต้องเป็นคนเก่ง มีอัธยาศรัยดี มีจิตสาธารณะ ไม่ใช้เข้ามาใช้อำนาจเพื่อตัวเอง แต่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความแตกแยก และมีปัญหาโรคระบาดด้วย
“จึงบอกว่า คุณหญิงพจมานสามารถเป็นศูนย์กลางของพรรคได้ หากมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะสามารถดึงดูดบุคลากรของพรรคไทยรักไทยที่กระจัดกระจายอยู่ตามพรรคต่างๆหรือหยุดเล่นการเมือง จะกลับมาฟื้นฟูประเทศของเราให้ฟื้นฟูวิกฤตครั้งนี้ได้ แต่เรื่องท่านทักษิณ ตอนกลับมาว่า คุณหญิงพจมานอายุมากไป มันต้องใช้คนรุ่นใหม่มาเป็น ซึ่งผมเห็นต่าง เพราะคิดว่า คนที่จะมาเป็นว่าที่นายกฯ ไม่ใช้ใครๆก็เป็นได้ ประสบการณ์ในชีวิตสำคัญมาก”
นายเกรียง กล่าวถึงบุคคลที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคนั้น พรรคยังขอเก็บไว้เป็นความลับไว้ก่อน โดยตอนนี้พรรคกำหนดคนไว้ 3 คนเชื่อว่า เร็วๆนี้ก็คงจะรู้