วันที่ 28 ต.ค.2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการประชุมพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุมพรรควานนี้มีการแสดงความเห็นอย่างดุเดือดนั้น ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในที่ประชุม และข่าวที่เกิดขึ้น จะทำให้การทำงานในสภาฯ ไปรอดหรือไม่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นไร แต่ถ้านานไปกว่านี้จะมีผลกระทบ พร้อมย้ำถึงการประชุมในวันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีตามกำหนดเดิม ในเวลา 13.30 น. หรือไม่ เพราะวานนี้มีการพูดคุยกันไปแล้ว จึงยังไม่ทราบจะมีการประชุมหรือไม่ และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน จะต้องรอช่วงสายอีกครั้ง
ส่วนสถานการณ์ในพรรคขณะนี้จะทำอย่างไรให้พรรคกลับมาเดินหน้าทำงานต่อเพราะพรรคการเมืองต่างๆ เตรียมพร้อมวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว นายสมศักด์ กล่าวว่า จะตอบสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ได้ ต้องใช้เวลาในการพูดคุยแก้ปัญหา มองเป็นเรื่องปกติที่แต่ละพรรคเตรียมการวางตัวผู้สมัคร เพราะการทำงานของรัฐบาลในช่วงปีที่3-4 ก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ส่วนปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค จะทำให้แตกแยกทางการเมืองหรือไม่ ก็ไม่มีสูตรสำเร็จ ว่ากันไปตามสถานการณ์
พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ ไม่ขอแสดงความเห็นถ้าหากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะยังเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป และมองว่าไม่สามารถสามารถแสดงความเห็นส่วนตัวได้
เมื่อถามย้ำว่า 6 รัฐมนตรีที่ขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคจะอยู่ในพรรคอย่างไรหากไม่สำเร็จ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่รู้
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ ว่ากำลังดูอยู่ว่าจะมีการประชุมหรือไม่มี ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค ซึ่งตนเป็นแค่คณะกรรมการ 1 เสียงเท่านั้น ทั้งการที่มีกรรมการบริหารพรรคบางคนลาออกแล้ว ก็เป็นการเตรียมการ หากมีการบริหารพรรคผิดพลาดหรือแนวทางที่ไม่ตรงกัน ในฐานะที่เราเป็นเสียงข้างน้อยก็ต้องพิจารณาตัวเอง หากเสียงสะท้อนที่ส่งสัญญาณไปมีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง และประโยชน์ของพรรคพลังประชารัฐ ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งตนก็เคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค เพราะเป็นศูนย์รวมจิตใจของสมาชิกทุกคน พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ตั้งมาใหม่ และมี ส.ส. 200 กว่าคน ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ยากมาก
ส่วนหลังจากนี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสุชาติ ระบุว่าพรรคการเมืองก็มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อปรับสมดุลของการเมือง วันนี้เราอาจเป็นคนที่ดีและเหมาะสม แต่เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไปก็อาจจะไม่ใช่เรา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และ
เมื่อถามย้ำว่าการที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ระบุว่าพยายามขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงแต่ถ้าทำไม่สำเร็จจะอยู่อย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่าเป็นความมคิดของนายสมศักดิ์ เราอาจเห็นไม่เหมือนกัน ตนก็เป็น 1 ในเสียงของคณะกรรมการบริหารพรรค หากเป็นแล้วไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ก็ไม่ควรที่จะเป็น หากเป็นแล้วเสนอแนวคิด หรือคิดเห็นไม่ตรงกันกับเสียงข้างมาก หรืออยู่แล้วไม่สบายใจ ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งทุกอย่างที่เสนอไปไม่ได้เสนอเพื่อตัวเอง เสนอเพื่อให้พรรคเติบโตและเป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแรง และหัวหน้าพรรคการเมืองมีความสง่างาม
พร้อมมองว่าเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองใหญ่ที่จะมีการปรับโครงสร้าง เราเองก็เป็นพรรคการเมืองใหญ่ เราต้องมีการปรับเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น และทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้
ส่วนหากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเป็นเลขาธิการพรรค แล้ว 6 รัฐมนตรีจะยังคงทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน คงต้องแยกประเด็นกัน การเลือกตั้งยังเหลือเวลาอีกตั้งปีกว่า แต่เชื่อว่าเมื่อเราปรับสมดุลย์ก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้ และทำให้พรรคแข็งแรง ส่วนการปรับครั้งนี้แล้วปัญหาจะยุติหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พรรคเราตั้งมาใหม่ เรายึดที่หัวหน้า ไม่เหมือนพรรคอื่นที่เขามีสาขา มีหัวหน้าภาค รองภาคต่างๆ ซึ่งพรรคก็ต้องค่อยๆ ปรับหาสมดุลย์เพื่อให้มีความพร้อม