วันนี้ (3 พ.ย.64) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพส.ส. ของ นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2651 มาตรา 7 (5) และให้นายสาลี ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องและมีมติเอกฉันท์ให้นายสาลีหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.64 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง
เนื่องจากเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า นายสาลี ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง
สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ได้กำหนดลักษณะต้องห้ามของบุคคลมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งว่า เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือ กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือ หน่วยงานของรัฐ หรือ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนกฎหมายว่า ด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิตนำเข้าส่งออก หรือผู้ค้ากฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือ เจ้าสำนักกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
ทั้งนี้มีรายงานว่า คดีดังกล่าว เป็นกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะ ส.ส. ของ นายสำลี รักสุทธี จากกรณีต้องโทษคดีทะเลาะกับสถานบันเทิงที่อยู่ข้างบ้าน และศาลสั่งจำคุก แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา และให้บำเพ็ญประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำลี รักสุทธี เป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และได้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ