วันนี้(4 พ.ย.64) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด มาตรา 157 คดีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้านบาท ให้แก่เอกชนก่อนหน้านี้ และถูกยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ว่า ขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวขณะนี้เรื่องทางแพ่งอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ยังไม่มีการตัดสิน
และคดีอาญาที่ป.ป.ช.ชี้มูลว่าผิดมาตรา 157 ละเว้นการจ่ายเงินให้เอกชน ที่ภายหลังทราบว่ามีการ “ฮั้วประมูล” กันนั้น ตอนนี้ยังอยู่ที่อัยการและยังไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาล และทราบว่ายังมีการตั้งข้อไม่สมบูรณ์ 16 หน้ากระดาษ มีข้อบกพร่องในสำนวนอยู่หลายประเด็นมาก และเมื่อคดีหลักยังไม่ตัดสิน คดีปลายจะไปได้อย่างไร
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนจึงไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้ช่วยถอนคำสั่ง เพราะว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดใดๆ และการที่ไม่เซ็นก็เป็นการรักษาผลประโยชน์ด้านงบประมาณของจังหวัด ซึ่งจนถึงวันนี้เงิน 51 ล้านบาท ยังอยู่ที่อบจ.สงขลา ยังไม่มีการจ่ายเงินสักบาท ขณะเดียวกัน สภ.เมืองสงขลา ก็มีคำสั่งฟ้องและส่งฟ้องมาที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งขณะนี้กองปราบฯ พิจารณาสำนวนและยืนยันสั่งฟ้องบริษัทเอกชนและพวกแล้ว
เมื่อถามว่าในเมื่อตำรวจสั่งฟ้องว่าบริษัทเอกชนว่า “ฮั้วประมูล” แล้ว แต่ป.ป.ช.กลับชี้มูลความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า "เรื่องนี้เป็นเหตุให้ไปฟ้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่ง ด้วยเหตุผลที่ผมไม่ได้ทำผิด และลงโทษทางวินัยผมโดยไม่ตั้งคณะกรรมการ ซึ่งป.ป.ช.ไม่ได้ชี้ผมว่าทุจริต ดังนั้นการจะลงโทษทางวินัยก็ต้องตั้งกรรมการมาสอบผมก่อน”
นอกจากนี้ ตามกฎหมาย อบจ.ถ้าจะลงโทษตน ต้องลงโทษภายใน 2 ปี นับจากวันที่ครบวาระ ตนเป็นนายกอบจ. ปี 2556 ครบวาระปี 2560 ถ้าจะลงโทษก็ต้องภายในปี 2562 แต่นี่มาลงโทษปี 2564 ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ ตนจึงต้องฟ้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสิ่งนี้เพราะเป็นคำสั่งโดยมิชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตรวจสอบคุณสมบัติ ข้อกฎหมาย แล้วมองว่ากระทบต่อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรกระทบ เมื่อไม่ได้ทำความผิดและไม่ได้มีการทุจริต ซึ่งที่ป.ป.ช.ชี้ม.157 ละเว้นธรรมดา ไม่ได้ละเว้นโดยทุจริตจึงไม่เข้าข่าย
“ขอยืนยันเรื่องทั้งหมดไม่ได้กระทำผิด ทำไปเพื่อรักษางบประมาณ อบจ.สงขลา เพราะมีการร้องเรียนเรื่องทุจริต ขณะนี้สภ.สงขลา และกองปราบก็ยืนยันแล้วว่า มีการฮั้วประมูลจริง ดังนั้น นิติกรรมการซื้อขายครั้งนั้นก็โมฆะ ไม่ผูกพันอะไรเลย ทุกคนกลับสู่สถานะเดิมถ้าใครเรียนกฎหมายมาก็จะรู้” นายนิพนธ์ ระบุ