วันนี้ (11 พ.ย.64) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP5 ซึ่งเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา 112
นายสุเทพ กล่าวว่า เวลาผ่านมา 1 สัปดาห์เราเห็นชัดเจน พวกหนึ่งก็สุดโต่งมาก ถึงขนาดว่า ต้องยกเลิกไปเลยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ให้มีอีกต่อไป อ้างเหตุผลมากมาย ซึ่งไม่ถูกใจพวกเราคนไทยทั้งนั้น
ในการยกเหตุผลนั้นๆ มา อีกพวกหนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายพรรคการเมือง ก็ประกาศว่า จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยย้ายจากหมวดความผิดต่อรัฐ ต่อ ความมั่นคงรัฐ หรือ ต่อความมั่นคงต่อราชอาณาจักร ไปไว้ในลักษณะความผิดอื่น ที่เป็นการเฉพาะ เพราะว่าต้องการที่จะให้มีโทษเบาลง แล้วประกาศชัดอีกว่า ถ้าหากผู้ใดกระทำการวิพากษ์ วิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือ ติชมโดยสุจริต ไม่ต้องรับโทษในฐานะที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 เรียกว่ายกเว้นโทษให้คนที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือ รัชทายาท ตรงนี้คนไทยเขาไม่ยอม
นายสุเทพ กล่าวว่า มีตัวเลขออกมาชัดว่า คนจำนวนถึง 98% เศษ ที่คิดเห็นเหมือนกัน ลึกลงไปในเรื่องว่า เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย กับการพยายามที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ปรากฏว่า ประชาชนคนไทย 96.1% ไม่เอาด้วย ไม่เห็นด้วย ที่เขาไม่เห็นด้วยนี้ ถ้าติดตามข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศในระหว่างนั้น ที่เขามีการพูดจากันในเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พล.อ.ประยุทธ์ ไปประชุมระหว่างประเทศ อยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ กลับมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศทันทีว่า ไม่ยอม ไม่เห็นด้วย ไม่ให้ใคร มาแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
“ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงประกาศชัดเจนอย่างนั้นก็ เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารประเทศ ต้องทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ เอาไว้ รัฐธรรมนูญบัญญัติถึงหน้าที่ของประชาชนคนไทยว่า จะต้องพิทักษ์รักษา สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 50
ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญ ก็บัญญัติไว้ในมาตรา 52 ว่า รัฐจะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช สถาบันเกียรติภูมิของชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงท่าที ต้องทำหน้าที่ เรื่องของการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่พูดอย่างนี้ ไม่แสดงอย่างนี้ ถือว่าบกพร่อง เหมือนกับคนไทยทั่วไป ที่เขามีความรู้สึกว่า ถ้าเขาไม่แสดงออกเรื่องอย่างนี้ เขาไม่สบายใจ บกพร่องต่อหน้าที่”
นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วง ผู้ที่กำลังเคลื่อนไหวสนับสนุนให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คิดว่าผู้ที่เป็นนักการเมือง เป็น ส.ส. เป็นพรรคการเมืองมีกฎหมายเยอะแยะ ที่ควรจะไปแก้ไข ปรับปรุง เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ไม่น่าที่จะมาทำเรื่องกฎหมายนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อจิตใจของประชาชนส่วนใหญ่
พรรคการเมือง นักการเมือง ที่ยังดึงดัน ที่จะผลักดัน ที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คิดว่า จะต้องถูกคนไปร้องเรียน อาจจะไปร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ร้องเรียนต่อศาลฎีกา หรือ แม้แต่ไปร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีอาญา คนที่ทำไปแล้ว ดูหมิ่น ให้ร้ายต่อพระมหากษัตริย์ไปแล้ว ก็ถูกดำเนินคดีอยู่ แค่ไปขึ้นเวทีไปสนับสนุน ไปชุมนุมด้วยก็ผิดนะ ไม่ใช่คนที่เสนอให้แก้ แต่เป็นคนที่ไปพูดจาสนับสนุน เกิดปัญหาได้ มีประมวลกฎหมายอาญา อีกมาตราหนึ่ง ที่มีคนกล่าวถึงอยู่บ้าง
“คือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ถ้าผู้ใดกระทำด้วยวาจา หนังสือ หรือ วิธีการอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ มีโทษจำคุก มีองค์ประกอบไว้ว่า ถ้าการกระทำนั้น ทำให้เกิดปั่นป่วน กระด้าง กระเดื่อง ในหมู่ประชาชน เป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มีโทษจำคุกสูงถึง 7 ปี อย่าไปคิดว่าผมมาข่มขู่ แต่เป็นการแสดงคิดเห็นในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ผมเจอมาแล้ว ผมไปชุมนุมเดินขบวนปี 2556-2557 ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ ไม่เป็นเครื่องมือให้เขาทำการทุจริตคอร์รัปชัน และให้มาร่วมชุมนุมกับประชาชนแค่นี้ เข้าข่ายความผิดมาตรา116 ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ใช่ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ผมก็สู้นะว่าดำเนินการอย่างนี้ ผมก็ยกรัฐธรรมนูญให้ดูแล้วมันเข้าข่ายจริงๆ”
นายสุเทพ กล่าวย้ำว่า ตนอยู่ฝ่ายที่ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพร้อมที่จะร่วมขบวนในการต่อสู้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเพื่อที่จะพิทักษ์รักษา สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำหน้าที่ของเราตามรัฐธรรมนูญ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าพี่น้องคนอื่นๆ ในประเทศ วันนี้ที่แม้จะวางเฉยก็คิดเช่นเดียวกัน เป็นห่วงชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกัน ประเทศไทยถ้าเราไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่คิดว่าเราจะรักษา ความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันไว้ได้
“ผมไม่คิดว่า เราจะรักษาเอกราชของประเทศไว้ได้ มีตัวอย่างเกิดขึ้นในหลายประเทศทั้งที่อยู่ใกล้บ้านเราและไกลออกไป เมื่อไรที่แตกแยกเป็นประเทศเล็กๆน้อยๆในที่สุดก็ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ ประเทศไทยเป็นของเราทุกคน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกันคิดช่วยกันให้สติทำสิ่งดีๆ ให้กับบ้านเมืองคนที่คิดดีแล้วก็มีกำลังใจ และเดินหน้าทำกันต่อไปผมอยู่ข้างเดียวกับท่าน” นายสุเทพ ระบุ